พ่อตาปืนโหด ยิงลูกเขย ดับคาจานข้าว สาเหตุปมหนี้สิน ภรรยา-ลูกสาวผู้เสียชีวิต กอดคอร้องไห้ระงม

พ่อตาปืนโหด ยิงลูกเขย ดับคาจานข้าว สาเหตุปมหนี้สิน ภรรยา-ลูกสาวผู้เสียชีวิต กอดคอร้องไห้ระงม

เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 9 ม.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ที่เกิดเหตุภายในโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทรหมอบาง ซอยหมอบาง ตำบล ในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลบางจาก และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 5 ชั้น เหตุเกิดที่ตึก 34 ชั้นที่ 2 ภายในห้องเลขที่ 321/9 พบเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กำลังปั๊มหัวใจผู้ได้รับบาดเจ็บชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายไป อาจวิชัย 55 ปี ถูกอาวุธปืนลูกซองสั้น (ไทยประดิษฐ์ ) ยิงเข้าที่ลำตัวจำนวนหลายสิบนัด อาการสาหัสหมดสติ เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจกว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผล ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่า เป็นพ่อตาของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายพริ้ง สุขสีฟัน อายุ 79 ปึ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ในห้องพักติดกับห้องเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัว พบว่าผู้ก่อเหตุมีบาดแผลแตกที่ศีรษะ จากการสอบสวนทราบว่า ขณะใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต ปืนได้ดีดใส่หน้าผากจนได้รับบาดเจ็บ

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พรบ. อาวุธปืน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถาม นางสาวจันแรม สุขสีฟัน อายุ 50 ปี ลูกสาวผู้ก่อเหตุ และภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า สามีของตนกลับมาจากทำงาน กำลังจะกินข้าว ส่วนตนกับลูกสาวก็นอนกันอยู่ในห้อง จากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่อของตนเดินเข้ามาคุยกับสามี เรื่องนี้หนี้สินที่ยืมไป 200,000 บาท

ซึ่งสามีตนก็ใช้ไปบางส่วนแล้ว ก็ยังไม่ทราบว่า ทำไมพ่อของตนจึงมาก่อเหตุ เนื่องจากมีการนัดคืนส่วนที่เหลือภายในสิ้นเดือนนี้ หลังจากที่พ่อเข้ามาคุยกับสามีตนได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ตอนจึงเดินออกมาดู พบว่าสามีตนนอนจมกองเลือดอยู่กลางบ้าน ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ

ในขณะที่ นายพริ้ง ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนมีปากเสียงกับลูกเขย เพราะลูกเขยยืมเงินไป 200,000 แล้วยังคืนไม่ครบ ซึ่งคืนมาแค่ 60,000 บาท ตนแค้นมากเนื่องจากทวงถามไปหลายครั้ง และเป็นเงินที่ตนสะสมมานาน วันนี้สบโอกาส เลยนำปืนไทยประดิษฐ์ที่ซื้อมาในราคา 300 บาท เมื่อหลายปีที่แล้ว นำมาก่อเหตุดังกล่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ