วันที่ 9 มกราคม 2567 ร.ต.อ.เรืองยศ ภูดานุ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุผูกคอตายในแคมป์คนงาน ภายหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ถนนมิตรภาพ (อุดร-หนองคาย) ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี จากนั้นพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักคนงานชั่วคราว แบ่งเป็นห้องมุงและกั้นห้องด้วยสังกะสี พบศพนายดอน ภูเพชร อายุ 27 ปี ชาว สปป.ลาว ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอกับขื่อหลังคา สภาพศพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์ขาสามส่วน จากการชันสูตรตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตมาได้ 7-8 ชั่วโมง

นางคาน อายุ 43 ปี แม่ของผู้ตาย นั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมกับบอกกล่าวดวงวิญญาณลูกชายว่าไม่ต้องเป็นห่วงแม่กับน้อง ให้ไปอยู่บนสวรรค์ ไม่ต้องมาลำบากกับแม่อีก เพราะไม่มีพ่อ ก่อนจะเล่าว่า ตนเป็นม่าย มีลูกติด 2 คน ผู้ตายเป็นลูกคนโต และเป็นช่างสี ต่อมาตนได้สามีใหม่เป็นคนไทย จึงชวนลูกมาทำงานและพักอยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้างได้ 3 ปี

ก่อนเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้ผู้ตายมาปรึกษาตน เรื่องทะเลาะกับ น.ส.เตี้ย แฟนสาวที่อยู่ลาว ซึ่งครบกันได้ 1 เดือน ผู้ตายให้ตนกับพ่อคนไทยสู่ขอ แต่ขอเวลาทำงานหาเงินที่ไทยก่อนจึงจะไปแต่ง แต่วันนี้ทะเลาะกันเพราะไม่ได้ส่งเงินไปให้แฟน ตนก็ให้คำปรึกษา บอกผู้ตายไม่ต้องคิดอะไรมาก เช้าวันนี้ไม่เห็นลูกชายออกมาทำงาน จึงได้เข้าไปดูพบว่าผูกคอแล้ว ตนรู้สึกตกใจมากวิ่งออกมาบอกสามีชาวไทย ก่อนแจ้งตำรวจให้มาดู ส่วนสาเหตุที่ลูกชายทำเช่นนี้เนื่องจากทะเลาะกับแฟน เพราะไม่มีเงินส่งไปให้แฟน ทำให้น้อยใจเลยผูกคอตาย

ส่วน นางสุบัน อายุ 55 ปี ญาติผู้ตายเล่าว่า เมื่อปีใหม่แม่กับพ่อข้ามไปสู่ขอ น.ส.เตี้ย แฟนสาวชาวลาวให้ผู้ตาย ซึ่งผู้ตายรักชอบแฟนคนนี้มาก หวังจะสร้างครอบครัวด้วย จึงเลิกดื่มเหล้า ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินไปแต่งแฟนสาว เมื่อวานนี้ตนเห็นผู้ตายเครียด เพราะไปขอเงินเบิกล่วงหน้ากับนายจ้าง 2,000 บาท เพื่อที่จะส่งเงินไปให้แฟนสาว แต่นายจ้างไม่ให้เบิก ช่วงค่ำผู้ตายจึงมีปากเสียงทะเลาะกันกับแฟนทางโทรศัพท์ ทำให้ผู้ตายเครียดและกดดัน จึงระบายด้วยการอาละวาดทุบฝาบ้านพัก จากนั้นได้ออกไปกินเหล้ากับเพื่อน กลับมาก็มาผูกคอตาย

ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายเครียดที่เบิกเงินล่วงหน้าจากนายจ้างส่งไปให้แฟนสาวชาวลาวไม่ได้ ทำให้ทะเลาะกัน ผู้ตายเครียดจึงไปดื่มเหล้า และด้วยความน้อยใจจึงผูกคอตายประชด ได้นำศพไปแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อดำเนินการต่อไป