อุตส่าห์เดินมาตั้ง 8 วัน ปิกอัพขน 30 พม่าแหกด่านชนเสาไฟฟ้า คนขับเผ่น

อุตส่าห์เดินมาตั้ง 8 วัน ปิกอัพขน 30 พม่าแหกด่านชนเสาไฟฟ้า คนขับเผ่น

วันที่ 5 มกราคม 2567 มีรายงานว่า พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิไล ผกก.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี, พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29/ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ (ผบ.ฉก.) ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์, พ.อ.สุรเดช เมฆนุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์, พ.ต.ท.อรรถพล แพสอาด ผบ.ร้อย ตชด.134, นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี, พ.ต.ท.เมธี ธีระสวัสดิ์ สว.ตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี, นายณัฐพัชร์ งามศิริโรจน์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอสังขละบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก เข้ามาในไทย โดยใช้เส้นทางเรือล่องมาตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชริลาลงกรณ จากนั้นจะมีคนขับรถกระบะสีดำมารับ เพื่อมุ่งหน้าไปตามถนนสาย 323อ.สังขละบุรี-ทองผาภูมิ

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจสามแยกจงอั่ว หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แคป สีดำ หมายเลขทะเบียน บท 2118 กาญจนบุรี ขับมาจากทาง อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุด เมื่อคนขับเห็นจึงชะลอรถท่าทางคล้ายจะจอด แต่เมื่อได้จังหวะกลับเร่งเครื่องแหกด่านตรวจไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไป โดยรถกระบะคันดังกล่าวหนีไปไม่ไกลนัก ก็เกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางอย่างแรง จนล้อหลุดหน้ารถพับยับเยิน ส่วนเสาไฟฟ้าเอนเกือบหักโค่น พบแรงงานต่างชาวเมียนมาทั้งหญิงและชายนั่งเบียดกันมาเต็มคันรถ รวม 30 คน เป็นชาย 23 คน หญิง 7 คน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการเกิดอุบัติ 8 คน ส่วนคนขับได้อาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีไปได้

โดย นายเซนอาแซน อายุ 20 ปี หนึ่งในแรงงานที่ถูกจับกุมตัว ให้การว่า พวกตนเป็นชาวเมืองยะไข่ ประเทศเมียนมา ใช้เวลาเดินเท้ามาถึงอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา รวม 8 วัน จากนั้นมีชาวไทยนำพาลักลอบเข้ามายังฝั่งไทยที่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์

เมื่อข้ามมาได้ทุกคนได้นั่งซ้อนท้ายรถจยย.ไปลงที่ท่าจอดเรือหลังวัดวังก์วิเวการาม หมู่ 2 ต.หนองลู แล้วนั่งเรือล่องมาตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ไปขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำบ้านทิโคร่ง ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ก็มีคนขับรถกระบะมามาจอดรออยู่แล้ว ระหว่างนั่งรถเพื่อเดินทางไปประเทศมาเลเซียก็มาเกิดเรื่องดังกล่าวและถูกจับกุม

ส่วนสาเหตุที่พวกตนตัดสินใจหนีออกจากเมืองยะไข่ เพราะไม่มีงานทำ จึงมีความอดอยากมาก อีกทั้งสถานการณ์การสู้รบยิ่งรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นพวกตนจึงตัดสินใจหนีไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ไปตายเอาดาบหน้าจะดีกว่าที่จะต้องทนอยู่ที่เมืองยะไข่ บ้านเกิด

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ