เมื่อวันที่ 2ม.ค.67 สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตรมควันตัวเองในรถ อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. จึงรุดไปพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น อยู่ในเนื้อที่ประมาณ 300 ตร.ว. มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านบริเวณที่จอดรถพบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอชอาร์วีสีดำ

จอดเปิดประตูหลังด้านขวา บริเวณเบาะหลัง พบศพ หญิง อายุ 31 ปี ลักษณะสาวทอม สภาพศพนอนหงายในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ท้ายรถพบเตาอั้งโล่มีถ่านถูกจุดไว้จนมอดเกือบหมด และถ่านอีก 1 ถุง บริเวณเบาะหน้าฝั่งซ้ายพบจดหมายตัดพ้อของผู้ตายระบุว่า

เหนื่อยมามากแล้ว ไม่รู้จะแก้ยังไง พยายามเต็มที่แล้ว" เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนทราบว่า แต่ก่อนครอบครัวผู้ตายประกอบอาชีพเปิดโรงงานหลอมเหล็กอยู่ จ.นครปฐม กิจการเจริญรุ่งเรือง ผู้ตายทำงานอยู่กับครอบครัว จนกระทั่งมาช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องขายกิจการ

ต่อมาบิดาของผู้ตายเกิดล้มป่วยเป็นอัมพาต ซึ่งบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 3 คน ผู้ตายกับมารดาต้องช่วยกันดูแลบิดา โดยที่ไม่ได้มีรายได้ ใช้เงินเก่าที่มีอยู่ ซึ่งเงินก็เริ่มหมดลง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายบอกที่บ้านว่าจะออกไปหาเพื่อน แต่ไม่ได้ขับรถไป รถยังคงจอดอยู่ที่เดิม

ซึ่งมารดาก็ไม่ได้เอะใจว่าลูกไม่กลับบ้าน เพราะคิดว่าไปค้างบ้านเพื่อน ประกอบกับฟิล์มรถก็มืดทึบ จนกระทั่งก่อนพบศพนางนงลักษณ์เดินผ่านรถคันดังกล่าว ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง จึงลองเปิดประตูด้านหลัง จึงพบศพลูกสาวดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งนิติเวช โรงพยาบาลศิริราชเพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป