กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ชาวโซเชียลต่างให้ความสนใจอย่างมากในขณะนี้ เมื่อสื่อต่างประเทศ ได้มีการรายงานอาการป่วยที่แสนน่าขนลุกของชายวัย 53 ปี ที่ถูกครอบครัวพามายังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศเวียดนาม ซึ่งเขามีอาการเลือดกำเดาไหลไม่ยอมหยุด พร้อมกับมีความผิดปกติอื่น ๆ ก่อนแพทย์จะทำการรักษาและพบกับความน่าสะพรึง

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

จากการรายงานของสื่อดังกล่าว ระบุว่า กรมอนามัยในจังหวัดหล่าวกาย ของประเทศเวียดนาม เผยว่า คนในครอบครัวพาได้ชายวัย 53 ปี มาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด หลังจากที่เขามีเลือดกำเดาไหลไม่หยุด และยังมีน้ำมูกกลิ่นเหม็นไหลออกมา พร้อมกันนี้ผู้ป่วยยังมีค่าตับสูง อีกทั้งมีประวัติดื่มแอลกอฮอล์มานานหลายปี

อย่างไรก็ตาม หลังจากปฐมพยาบาลเพื่อหยุดเลือดแล้ว แพทย์ทำการตรวจเพิ่มเติมและส่องกล้องทางจมูก จึงพบว่าโพรงจมูกด้านซ้ายของผู้ป่วยมีหนอนจำนวนมากทำรังอยู่ภายใน ขณะที่โพรงจมูกฝังขวาเต็มไปด้วยสะเก็ดแผลบนเยื่อบุผิวในช่องจมูก แต่ที่เรื่องที่ทำน่าสะพรึง นั่นก็คือ แพทย์ได้นำหนอนตัวเป็น ๆ กว่า 100 ตัวออกมาผ่านวิธีการส่องกล้อง จากนั้น สุขภาพของผู้ป่วยรายนี้ก็มีอาการทรงตัว แต่ยังต้องสังเกตอาการและรับการรักษาต่อไป

ขณะที่ คนในครอบครัวของชายคนนี้ เล่าว่า เป็นเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว ที่พวกเขาพบว่าผู้ป่วยมีน้ำมูลไหลเยอะมากและยังมีกลิ่นเหม็น พวกเขาพยายามบอกให้ผู้ป่วยไปรักษาตัวแล้ว แต่เขายังดื้อรั้นไม่ยอมไปโรงพยาบาล จนกระทั่งเกิดสภาพเลวร้ายเช่นนี้

ทั้งนี้ แพทย์ซึ่งเป็นรองหัวหน้าแผนกหู คอ จมูก ของโรงพยาบาลประจำดังกล่าว ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงผู้ป่วยเคสนี้ด้วยว่า กรณีของผู้ป่วยรายนี้นับเป็นเคสที่หายากมาก เกิดขึ้นจากการขาดความใส่ใจด้านสุขอนามัย จึงเอื้อต่อการพัฒนาของตัวอ่อนกลายเป็นหนอน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

หนอนในจมูกเติบโตได้อย่างรวดเร็วมาก มักทำให้เกิดการระคายเคือง มีน้ำมูกไหลเพิ่มขึ้น มีอาการบวมน้ำ จะรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก ปวดจมูก เลือดกำเดาไหล หรือน้ำมูกอาจจะมีกลิ่นเหม็น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ตัวอ่อนสามารถเจาะเข้าไปลึกถึงเนื้อเยื่อสมอง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากมีคนพบเห็นสัญญาณแปลก ๆ จากร่างกาย จึงควรเข้ารับการตรวจรักษาโดยทันที

ข้อมูล Quang Ninh