ความคืบหน้า นางเอ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ตนอยู่กินกับนายบี (นามสมมติ) อายุ 50 ปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้ชายอายุ 14 ปี คนเล็กลูกสาวอายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 โดยตนได้เลิกรากับนายบีเมื่อ 6 ปีก่อน และลูกได้มาอยู่กับนายบี ที่บ้านย่า จ.บุรีรัมย์ มาโดยตลอด ขณะที่บ้านตนอยู่อำเภอเดียวกันกับ ซึ่งไม่ไกลกันนัก

กระทั่งปี 2565 ตนรับลูกชายมาอยู่ด้วย และเมื่อเดือน พ.ค. 2566 ตนไปขอย่ารับลูกสาวมาอยู่ด้วย ต่อมาวันที่ 6 ธ.ค. อดีตสามีมาระรานที่บ้านพยายามจะเอาตัวลูกสาวกลับไป แต่ลูกสาวไม่ยอมไปกับ นายบี ผู้เป็นพ่อ โดยก่อนกลับอดีตสามียังได้ข่มขู่ว่า ถ้าลูกไม่กลับไปจะฆ่าให้ตายทั้งแม่ทั้งลูก

ลูกสาว ซึ่งกลัวมากจึงเล่าให้ฟังว่า ถูกพ่อล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่อยู่อนุบาล และถูกข่มขืนกระทำชำเราเรื่อยมา ครั้งล่าสุดตอนเรียนอยู่ ป.5 เทอม 1 ก่อนที่แม่จะมารับไปอยู่ด้วย มีครั้งหนึ่งขณะที่พ่อกำลังข่มขืนตน เหมือนย่าจะรับรู้เพราะนอนอยู่ข้าง ๆ ย่าได้ดึงตัวหลานไปกอดนอนร้องไห้ด้วยกัน โดยย่ายังได้ถามตนด้วยความสงสารว่า เจ็บไหมลูก

ช่วงที่มาตนสงสัยว่าทำไมลูกอยากให้พาไปเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล แต่ลูกไม่ยอมบอกเหตุผล จนช่วงที่รับลูกสาวมาอยู่ด้วย 2 อาทิตย์แรก ลูกนอนร้องไห้ทุกวัน ตนพยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ลูกไม่ยอมบอก กระทั่งพ่อมาตามกลับและขู่จะฆ่าทั้งแม่ทั้งลูก จึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมด

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ได้ประสาน พ.ต.อ.ธวัชชัย สร้อยสวัสดิ์ ผกก. สภ.บ้านกรวด มอบหมาย พ.ต.ท.ฉัตรมงคล วงศ์จำปา รอง ผกก.สอบสวน สภ.บ้านกรวด ดูแลด้านคดี พร้อมประสาน นางนัฎญา วรชินา พัฒนาสังคมฯบุรีรัมย์ น.ส.พัทธ์ธีรา ขุนชะ หัวหน้าบ้านพักเด็กฯบุรีรัมย์ พาสองแม่ลูกเข้าแจ้งความ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสอบสหวิชาชีพและรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับพ่อแท้ ๆ รายนี้

ล่าสุดชุดสืบสวน สภ.บ้านกรวด ได้ทำการจับกุมพ่อแท้ ๆ พร้อมแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะคุมตัวฝากขังศาลวันที่ 23 ธ.ค. ต่อไป