ชัดเจน! สรยุทธ เปิดคำพิพากษาศาลระบุไว้ตามนี้ หลังหลายคนแห่สงสัย แรงจูงใจคดีน้องชมพู่

ชัดเจน! สรยุทธ เปิดคำพิพากษาศาลระบุไว้ตามนี้ หลังหลายคนแห่สงสัย แรงจูงใจคดีน้องชมพู่

จากกรณีข่าวดัง คดีน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ แห่งบ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ที่หายตัวไปเมื่อช่วงกลางปี 2563 ก่อนจะพบศพหลังจากนั้น 3 วัน ในระยะห่างจากบ้านไปกว่า 1 กิโลเมตร บนภูเหล็กไฟ ท่ามกลางปริศนามากมายที่ยังไขคำตอบไม่ได้เป็นเวลา 3 ปีกว่า

จนท้ายที่สุด คดีของน้องชมพู่เดินมาถึงจุดสิ้นสุด เมื่อศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษาจำคุกลุงพล หรือนายไชย์พล วิภา ใน 2 ข้อหา ฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 10 ปี และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันควร 10 ปี รวมจำคุก 20 ปี ส่วนป้าแต๋น ศาลยกฟ้อง

ซึ่งเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น สร้างความฮือฮาในแก่สังคมเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมา ลุงพล ยืนกรานถึงความบริสุทธิ์ของตัวเองมาตลอด เขายังสะอื้นไห้ในตอนที่พบศพน้องชมพู่ อีกทั้งยังกลายเป็นคนดังและมีแฟนคลับมากมายจากข่าวน้องชมพู่ เรียกว่ากลายเป็นซุปตาร์ชั่วข้ามคืนเลยก็ว่าได้ ทำให้ผู้คนจำนวนมากเกิดความสงสัยว่า แรงจูงใจของคดีนี้คืออะไรกันแน่

ทั้งนี้ จากบางส่วนของคำพิพากษาศาลจังหวัดมุกดาหาร ระบุว่า ปัญหาต่อมาต้องวินิจฉัยว่า ขณะพาผู้เสียชีวิต (น้องชมพู่) ขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟ จำเลยที่ 1 (นายไชย์พล) รู้หรือไม่ว่า ผู้เสียชีวิต (น้องชมพู่) ถึงแก่ความตายแล้ว หรือยังมีชีวิตอยู่ เห็นว่า จำเลยที่ 1 (นายไชย์พล) ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์ร่วมทั้งสอง (พ่อ-แม่ น้องชมพู่) หรือผู้เสียชีวิต (น้องชมพู่) มาก่อน

จึงไม่น่าเชื่อว่า จำเลยที่ 1 (นายไชย์พล) มีเจตนาฆ่าหรือเจตนาทอดทิ้งผู้เสียชีวิต (น้องชมพู่) ประกอบกับรายงานการตรวจศพผู้เสียชีวิต (น้องชมพู่) พบรอยช้ำใต้หนังศีรษะ บริเวณหน้าผากด้านซ้าย และท้ายทอย เป็นจ้ำ ๆ จึงอาจเป็นกรณีที่ผู้เสียชีวิต (น้องชมพู่) หมดสติไป ส่วนจำเลยที่ 1 (นายไชย์พล) ไม่ได้ตรวจดูให้ดีเลยพาผู้เสียชีวิต (น้องชมพู่) ไปทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟ... การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ทั้งนี้ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวคนดัง ให้ความคิดเห็นในเกี่ยวกับเรื่องแรงจูงใจของในการก่อเหตุครั้งนี้ ผ่านการคอมเมนต์ระบุว่า ไม่ได้มีแรงจูงใจในการทำให้เสียชีวิต แต่เป็นเพราะประมาทนั่นเอง

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ