ฟังอีกมุมของลูกสาว  หลังโซเชี่ยลดราม่า แม่ใช้ไม้ไล่ตีลูกสาว พร้อมตะโกนด่าไล่ลูกเนรคุณ ลูกสาวแจ้งความบุกรุก

ฟังอีกมุมของลูกสาว หลังโซเชี่ยลดราม่า แม่ใช้ไม้ไล่ตีลูกสาว พร้อมตะโกนด่าไล่ลูกเนรคุณ ลูกสาวแจ้งความบุกรุก

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เพจ โหนกระแส ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ฟังอีกมุม ลูกแจงดรามาแจ้งจับแม่รุกที่ เผยทรัพย์สิน มรดกจัดสรรปันส่วนก่อนพ่อเสีย ไม่มีใครคัดค้าน ส่งเสียดูแลมาตลอด ยันไม่เคยโกรธเกลียด จากกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์ แม่ใช้ไม้ไล่ตีลูกสาว พร้อมตะโกนด่าไล่ลูกเนรคุณ จนเกิดเป็นกระแสดรามา ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสได้พบลูกสาวคนโตที่ปรากฏตัวในคลิปที่ถูกแม่ใช้ไม้ไล่ตี ชี้แจงว่า ประเด็นที่ตนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบญจา จ.จันทบุรี ในวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการแจ้งเพื่อมาระงับเหตุ เนื่องจากมีชายฉกรรจ์ 4 คนบุกรุกเข้ามาในบ้าน แล้วใช้แชลงเหล็กงัดประตูจนได้รับความเสียหาย โดยมีร่องรอยหลักฐาน มีแชลงเหล็กของกลางตกในที่เกิดเหตุ .

จากนั้นกลุ่มชายขนย้ายสิ่งของภายในโกดัง รื้อค้นสิ่งของออกมากองไว้ข้างนอก พร้อมทั้งทำลายท่อส่งน้ำ ตัดต่อท่อที่วางระบบไว้ได้รับความหายหลายจุด ซึ่งตนคิดว่าเป็นการบุกรุก ทำให้เกิดความเสียหาย จึงโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาระงับเหตุ เมื่อตำรวจเข้ามาตรวจสอบความเสียหาย ได้แนะนำให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ระหว่างนั้นเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นตามในคลิป แม่ได้ปรากฏตัวตอนตำรวจเดินทางมาถึง โดยมีน้องชายเดินตามถ่ายวิดีโอ เหมือนเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า ตนคิดว่าไม่อยากเผชิญหน้า ตนไม่ได้มีปัญหากับแม่ จึงไม่ตอบโต้ใดๆ ตนยืนยันว่าไม่ได้แจ้งความให้ตำรวจมาจับแม่ . ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่ามีการตัดน้ำจนแม่ไม่มีน้ำใช้นั้น สามีของตน ชี้แจงว่า ที่ผ่านน้ำที่ใช้ในสวนเป็นน้ำที่อยู่ระดับสูง

เป็นระบบน้ำที่ไหลเวียนอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เวลาพ่นยาจะใช้วิธีการกาลักน้ำกลับมาเพื่อใช้ในสวนได้ ที่ผ่านมามีการเข้ามากลั่นแกล้งจากฝ่ายที่ต้องการแบ่งแยกที่ดิน เปิดน้ำทิ้งตามจุดต่างๆ ภายในสวน เข้ามาทำลายประตูน้ำ จนประตูน้ำได้รับความเสียหายใช้งานไม่ได้ ซึ่งก็เลี่ยงที่จะปะทะ ก่อนจะสั่งลูกน้องไปปิดน้ำ ถ้าไม่ปิดน้ำไหลจนหมดสระอย่างแน่นอน .

นอกจากนี้ ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวอาจจะเกิดจากเรื่องทรัพย์สินมรดกที่พ่อสร้างไว้ โดยประเด็นเรื่องที่กล่าวหาว่าตนไม่ยอมแบ่งที่ดินให้น้อง จนเกิดการฟ้องร้องนั้น ที่ผ่านมาตอนพ่อมีชีวิตอยู่ ที่กว่า 200 ไร่ รวมถึงอาคารพาณิชย์ ห้องเช่า ได้จัดสรรปันส่วนให้พี่น้องทั้ง 5 คน รวมทั้งแม่ ซึ่งทุกคนก็ไม่มีใครคัดค้าน กระทั่งพ่อป่วยติดเตียงหลายปี ก็ไม่มีใครคัดค้านเรื่องพินัยกรรม เรื่องมรดก . สำหรับที่ถูกกล่าวหาว่าเนรคุณ ขอชี้แจงว่า ตนดูแลค่าใช้จ่ายให้กับแม่ทุกปี ทั้งก่อนและหลังพ่อเสียชีวิต ทั้งในช่วงที่แม่อยู่กับสามีใหม่ ซึ่งช่วงนั้นแม่ก็มีรายรับจากการเก็บค่าเช่า ห้องพักอาคารพาณิชย์ เดือนละหลายหมื่นบาท ตนก็ยังดูแลส่งเสียแม่อย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีเรื่องฟ้องร้องระหว่างตนกับน้องชายเมื่อปี 64 จึงพิจารณา หยุดส่ง

ส่วนบ้านสวนที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน แม่ได้คัดชื่อออกตั้งแต่ปี 45 ส่วนน้องชายย้ายออกปี 47 ตนจึงอยู่ในฐานะเป็นเจ้าบ้าน ส่วนเรื่องการแบ่งที่สวนทุเรียนที่ตนทำอยู่ ก็เนื่องจากระยะหลังราคาทุเรียนเริ่มแพง ลำไยราคาเริ่มถูก แม่ก็เลยมาขอแบ่งสวนทุเรียนครึ่งหนึ่งให้น้องชาย ตนไม่เห็นด้วย เพราะว่าได้ตกลงกันในครอบครัวไปนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อ 11 ปีก่อนที่พ่อยังไม่เสียชีวิต ซึ่งทุกคนก็ยอมรับการจัดสรรปันส่วน แต่พอมาปี 64 น้องชายกลับมาฟ้องร้องขอแบ่งมรดกที่ดิน แปลงทุเรียนทั้ง 2 แปลง ซึ่งปัจจุบันเรื่องอยู่ในชั้นศาล

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ