จากกรณีคุณแม่ลูกอ่อน ได้สมัครหางานผ่านระบบออนไลน์ และได้มีกรอกข้อมูลส่วนตัว ก่อนจะถูกมิจฉาชีพดูดเงินจนหมดบัญชี เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นางสาวโสฐิดา อายุ 30 ปี ได้เปิดเผยกับสื่อทั้งน้ำตาว่า ตนได้คลอดลูกมา 5 เดือนแล้ว และสามีได้ทำงานคนเดียว แต่ล่าสุดสามีก็ตกงาน เลยเอารถจยย.ไปเข้าไฟแนนท์ เพื่อเอาเงินมาไว้ให้ตนใช้จ่ายในครอบครัว และไว้พาลูกน้อยไปหาหมอ

ตนจึงอยากหารายได้เสริม เพื่อช่วยสามี จึงได้ไปเจอเพจเฟซบุ๊ก โปรโมทแหล่งท่องเที่ยว และมีหัวข้อเชิญชวนผู้อยากหารายได้เสริม เช่น นักเรียน นักศึกษา และคนท้อง ตนจึงสนใจได้ทักข้อความเพื่อสมัคร แต่พอกดเข้าไปแล้วมีลิงค์เด้งมาให้กรอกขัอมูล ตนก็กรอกเลขบัญชี และข้อมูลไป จากนั้นจะมีคนทักไลน์มาชวนเข้ากลุ่ม ให้ทำกิจกรรม และช่วยแชร์โปรโมทเพจ แล้วจะมีรายได้ โดยมีผลตอบแทนดี เช่น หากใส่เงิน 500 บาทก็จะได้คืน 750 บาท จึงลองทำแล้วได้เงินจริง แต่ตนก็ขอเอาเงินออกมาแล้วไม่ได้เข้าไปดู

จนกระทั่ง ตนได้พาลูกไปหาหมอพอถึงเวลาจ่ายเงินตนก็มารู้ว่าเงินหายไปหมดบัญชี จึงได้มาเช็กที่สมุดบัญชีพบว่า เงินของตนถูกดูดไปเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2566 โดยโอนไปยังบัญชีธนาคาร เลขที่บัญชี 081-200-8594 ชื่อนางสาวณิชา และเงินได้ออกจากบัญชี 4 ครั้งติดต่อกันในเวลา 18.10 น. เงินออก 500 บาท เวลา18.27 น. จำนวน 300 บาท เวลา18.40 น. เงินออกจำนว น2,400 บาท และยอดสุดท้าย เวลา 19.06 น. จำนวนเงิน 7,200 บาท รวม 4 ยอดเป็นเงิน 10,400 บาท

พอรู้ว่าเงินหายก็ได้เดินทางไปแจ้งความไว้แล้วกับ สภ.เมืองชลบุรีทันที ยอมรับว่าเครียดมาก เพราะเงินที่ถูกมิจฉาชีพหลอกให้สมัครหารายได้ แต่โดนดูดเงินจนหมดตนคิดสั้นถึงขึ้นจะปลิดชีพตนเอง แต่มีคนที่รู้จักให้คำปรึกษา และทางเจ้าอาวาสวัดวรพรตก็ได้ให้คำสอน และเอาของมาให้ลูกตนเป็นนมผงสำหรับเด็ก และข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้ คำสอนของพระอาจารย์ทำให้ตนฮึดสู้ และไม่คิดสั้นอีก

ด้านพระครูสังฆรักษ์ สุริยา ถิรสัทโธ เจ้าอาวาสวัดวรพรตสังฆวาส เล่าว่า หลังจากที่ทราบเรื่องว่ามีหญิงสาวขอความช่วยเหลือเรื่องถูกมิจฉาชีพหลอก และถูกดูดเงินจนหมดบัญชี และคิดสั้น จึงได้หาช่องทางติดต่อ และให้คำสอนไปเป็นคติสอนใจ ช่วยหาทางออกเพราะการหาทางออกแบบนี้มันไม่ใช่ทางออกที่ดี และเป็นบาปหนักหากจึงได้นำของมาแจกให้เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจเล็กน้อย ๆ