หนุ่มวินทนไม่ไหว ร้องโดนผู้มีอิทธิพลข่มขู่เรียกเก็บเงินค่ารายเดือน-ส่งส่วยกว่า 5 ปี ไม่จ่ายถูกยึดเสื้อวิน สั่งห้ามวิ่ง

หนุ่มวินทนไม่ไหว ร้องโดนผู้มีอิทธิพลข่มขู่เรียกเก็บเงินค่ารายเดือน-ส่งส่วยกว่า 5 ปี ไม่จ่ายถูกยึดเสื้อวิน สั่งห้ามวิ่ง

วันที่ 17 ธ.ค. 66 ที่ท่าน้ำนนทบุรี อ.เมืองนนทบุรี นายต้น (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี อาชีพขับรถจยย.รับจ้าง วินท่าน้ำหอนาฬิกา เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับนายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ว่าผู้ขับขี่วินจยย.รับจ้างวินท่าน้ำหอนาฬิกา ประมาณ 80 คัน ถูกเรียกเก็บเงินค่าบำรุงวินรายเดือน 400 บาท ทุกคัน ถ้าไม่จ่ายจะถูกห้ามวิ่ง ยึดเสื้อวิน และถูกข่มขู่ นอกจากนี้ยังมีการเก็บเงินค่าน้ำตำรวจจราจร นำเงินกองกลางมาออกเงินกู้คิดดอกเบี้ย และหากใครต้องการเปลี่ยนหน้าขับวินโดยส่งต่อให้ลูกหลานต้องเสียค่าเปลี่ยนหน้าคนละ 11,000 บาท โดยคนที่อ้างว่าคุมวินดังกล่าวเป็นผู้เก็บเงินเพื่อนำไปส่งให้ผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ทราบว่าผู้ใหญ่ท่านนี้เป็นใคร จึงคาดว่าน่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองนนท์ จึงอยากให้ทางเพจช่วยเหลือประสานหน่วยงานให้จัดการกับผู้มีอิทธิพล คนขับวินหาเช้ากินค่ำจะได้ลืมตาอ้างปากกันได้บ้าง

นายต้น กล่าวว่า สาเหตุที่มาร้องเรียนเพราะตนและครอบครัวถูกเรียกเก็บค่าดูแลวินเดือนละ 400 บาททุกคัน คนที่ไม่จ่ายจะถูดยึดเสื้อวินและห้ามวิ่ง นอกจากนี้ยังถูกข่มขู่ว่าจะมีผู้ใหญ่มา ซึ่งตนไม่รู้ว่ามาแล้วจะโดนอะไร หรือเกิดอะไรขึ้น ตนมีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ มีใบอนุญาตบัตรเหลืองของขนส่งที่ออกให้ และขึ้นทะเบียนถูกต้อง ตอนนี้ตนป่วยเป็นมะเร็ง ไม่สามารถขับวินได้แต่ก็ต้องจ่ายเงินค่าดูแลวิน 400 บาททุกเดือน และตนก็อยากส่งต่อเสื้อวินให้ลูกเป็นมรดก เพื่อหารายได้ในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยแต่พอจะเปลี่ยนให้ลูกขับ กลับถูกเรียกเก็บค่าเปลี่ยนหน้าคนขับเป็นเงิน 11,000 บาท ทั้งที่เสื้อวินนี้เป็นเสื้อของตนมาตั้งแต่แรกเริ่ม ตอนนั้นซื้อมาในราคา 40,000 บาท มี 2 ตัวให้น้องชายที่เพิ่งพ้นโทษออกมาขับ 1 ตัว และขับเอง 1 ตัว เคยถามว่าทำไมต้องจ่ายค่าเปลี่ยนหน้าวิน คำตอบที่ได้รับคือเป็นธรรมเนียมที่ทำมา ถามว่าเอาเงินไปส่งให้ใครก็ไม่ได้รับคำตอบ ตอนนี้ตนเองป่วยไม่ได้วิ่งมานานแล้วแต่ก็ต้องจ่าย 400 ทุกเดือน ตอนนี้ในวินก็มีคนมาขับประมาณ 70-80 คัน คิดเป็นเงิน 28,000-32,000 บาททุกเดือนมีการเพิ่มจำนวนเสื้อมากขึ้นเรื่อยๆคนเข้าใหม่ก็ต้องจ่ายค่าแรกเข้าก่อน 1,000 บาท เป็นเงินกองกลาง ตนไม่ติดใจถ้าเอาไปซ่อมหรือดูแลวิน แต่มีการเอางินกองกลางไปออกเงินกู้คิดดอกเบี้ยด้วย

นายต้น กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการจ่ายค่าน้ำให้กับตำรวจจราจร เป็นการช่วยเคลียร์เรื่องการเอารถป้ายขาวมาขับ การทำผิดกฏจราจร ทางตำรวจจะดูแลให้ มีนำน้ำดื่มไปส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนไม่รู้ว่ามีการดูแลอย่างอื่นด้วยหรือเปล่า ที่ตัดสินใจมาร้องเพจครั้งนี้ เพราะอยากให้ช่วยเรื่องการเรียกเก็บค่าบำรุงวิน 400 บาทต่อเดือน เพราะพวกตนไม่ได้ประโยชน์จากเงินจำนวนนี้ ไม่ได้ช่วยเรื่องที่จอดรถจยย.ให้ดีขึ้น หรือช่วยเรื่องความเป็นอยู่สมาชิกในวิน เพราะเงิน 400 บาทสำหรับคนไม่มีมันคือเงินจำนวนเยอะ บางคนต้องใช้ส่งลูกเรียนทุกวัน บางคนก็ค้างไม่มีส่งและถ้ามีหนี้เงินกู้รายวันคือจบไม่มีเงินส่งค่าวินแน่นอน ตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้ให้ลูกขับเพราะไม่มีจ่ายค่าเปลี่ยนหน้าวิน ลูกออกไปขับก็จะมีปัญหา ตอนนี้มีการส่งข้อความมาทวงค่ารายเดือน บางคนไม่จ่ายเขาทวงมากๆก็จะมีการข่มขู่ว่าจะให้ผู้ใหญ่มาเก็บเอง หรือยึดเสื้อบ้าง ซึ่งทุกคนก็กลัว และที่เขาไม่กล้าออกมาพูดเพราะกลัว บางคนโดนสั่งห้ามวิ่งตามที่เขากำหนด เรื่องทั้งหมดนี้ที่รู้มาคือเขาเก็บเงินให้กับคนบางคนที่มีอิทธิพล อยากให้ทางเพจกล้าที่จะก้าวช่วยเคลียร์ตรงนี้ และปัญหาที่ทุกคนที่ขับวินกลัวคือ เขากลัวไม่มีที่จอดวิน เพราะเคยโดนขู่ว่าให้ไปวิ่งที่อื่น เพราะตรงนี้เป็นที่ของกู ซึ่งตนก็สงสัยเหมือนกันว่าที่ตรงท่าน้ำหอนาฬิกาเป็นที่หลวงหรือเป็นที่ของเขา หรือเป็นที่ที่ทุกคนทำประโยชน์ร่วมกันได้ เพราะเท่าที่รู้การจดตั้งวินต้องมีสถานที่เป็นหลักแหล่งรองรับผู้โดยสารได้ ตนไม่เคยไปร้องเรียนใครใน จ.นนทบุรี เพราะคิดว่าเขาน่าจะรู้จักผู้ใหญ่ในจังหวัด เรื่องวินมีปัญหามานานมากหลายสมัย ตั้งแต่สมัยนายกทักษิณ จนถึงสมัย คสช.ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม มันแก้ไม่หายก็มีการเรียกเก็บเงินมาตลอด ตนก็กลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย แต่ก็อยากส่งต่อเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ถึงจะไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ตนยอมทิ้งเสื้อวินเพราะป่วยไม่ได้ขับอยู่แล้ว คิดว่ามันเป็นมรดกตั้งใจจะส่งต่อให้ลูกหรือคนในครอบครัวได้ คนในวินกลัวไม่กล้าออกมาพูด ตนก็เคยกลัว แต่เห็นรายการที่ออกสื่อสามารถช่วยได้ตนถึงได้ออกมาทำเพื่อครอบครัว

นายต้น กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับรัฐบาลปัจจุบันที่ออกนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิ ส่วนตัวคิดว่าทำไม่ได้ มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว ไม่ว่าใครจะเข้ามาแรกๆก็ดูเหมือนจริงจังแต่พอนานไปก็จะรู้แนวทางว่าตรงไหนได้ ตรงไหนไม่ได้ แต่ก็ยังแอบมีศรัทธาที่เห็นคนมาร้องสื่อ มากกว่าไปร้องกับตำรวจ หรือร้องหน่วยงานราชการ ตนเชื่อมั่นในสื่อมวลชนมากกว่าเพราสื่อจะไม่ทำร้ายแหล่งข่าว เชื่อจรรยาบรรณนักข่าว เรื่องส่วยวินจยย.ไม่ใช่เรื่องเล็ก จ.นนทบุรี กำลังเติมโตรองลงมาจาก กทม.เชื่อว่าวินใน กทม.ก็มีเรื่องแบบนี้เหมือนกัน ในนนทบุรีอิทธิพลเรื่องนี้มีมานานมากแล้ว อยากรู้ใครจะมาช่วยเมืองนนท์ จะมีอัศวินขี่ม้าขาวมาไหม ถ้าตำรวจและนักการเมืองเป็นที่พึ่งของประชาชนได้จริงเรื่องเหล่านี้ก็คงจะไม่มีอย่างแน่นอน

นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า วันนี้ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อมูลจากผู้ร้องเรียนเข้าไปที่เพจกล้าที่จะก้าว เกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลในวินจยย.รับจ้าง ซึ่งผู้ขับขี่มีใบอนุญาตถูกต้องหมดทุกคน แต่มีการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับสมาชิกที่ขับวินจยย.จำนวน 70-80 ราย ซึ่งเรื่องนี้จะทำการประสานไปทางกระทรวงมหาดไทยให้ส่งผู้รับผิดชอบมาดูแล และปราบผู้มีอิทธิพลให้หมดไปตามนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ นอกจากการเก็บเงินรายเดือนยังมีการเรียกเก็บค่าเปลี่ยนหน้าคนขับ ซึ่งผู้ขับขี่ส่งต่อให้คนในครอบครัว จะต้องจ่ายเงิน 11,000 บาท ตนมองว่าเป็นเงินจำนวนมาก คนที่หาเช้ากินค่ำจะหาเงินจำนวนนี้มาจากไหน แล้วเงินจำนวนต่างๆที่เก็บไปอยู่ที่ใคร เรื่องนี้ต้องมีคำตอบให้ประชาชน หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายเข้าพบ นายชาดา ไชย ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงมหาดไทย โดยได้มีการประสานงานไว้เรียบร้อยแล้ว

สาโรจน์ สว่างศรี ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นนทบุรี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ