สุดรันทด 2 พี่น้อง ยายวัย 86 ปี ดูแลกันเอง คนหนึ่งป่วยติดเตียง อีกคนหนึ่งป่วยโรคหัวใจล้มเหลว

สุดรันทด 2 พี่น้อง ยายวัย 86 ปี ดูแลกันเอง คนหนึ่งป่วยติดเตียง อีกคนหนึ่งป่วยโรคหัวใจล้มเหลว

ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วย ไม่แล้งน้ำใจดูแลยายทั้ง 2คน วอนสังคมผู้ใจบุญช่วยเหลือยาย ทั้ง 2 คน เรื่องความเป็นอยู่ อาหารการกินไม่มีคนดูแลคนหนึ่่งติดเตียงตาบอดอีกคนหนึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจล้มเหลว

วันที่ 17 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่าที่นครนายกผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องราวจากนายจตุพร ด้วงศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก ว่ามี ยาย อายุ86ปี 2คนพี่น้องอยู่กินตามลำพัง ซ้ำยังป่วยติดเตียงพิการทางสายตาส่วนคนน้องเป็นดูแลก็ป่วยเป็นโรคหัวใจล้มเหลว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวบริเวณบ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 8 ตำบลพรหมณีอำเภอเมืองจังหวัดนครนายกบริเวณดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวโดยมีนายจตุพร ด้วงศรี ผู้ใหญ่บ้านพร้อมนายศิริชัย ฤทธิ์แดง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เข้ามาแบ่งภาระหน้าที่กันและกันช่วยเหลือยาย ทั้ง 2คน ภายในบ้านพบกับคุณยายทั้ง 2คน ที่กำลังดูแลกันอย่างน่าสงสาร ทราบชื่อคนเป็นพี่ชื่อนางสาวทุเรียน สังสมศักดิ์ อายุ 86 ปี นอนป่วยติดเตียงซำยังตาบอดมองไม่เห็นไม่สามารถพูดคุยได้เหมือนคนปรกติ มีเพียงแค่ นางคนึง สัมสมศักดิ์ อายุ 76 ปี ผู้เป็นน้องคอยดูแลเช็ดขึ้เช็ดเยี่ยวให้มิหนำซ้ำคนดูแลยังป่วยเป็นโรคหัวใจ จากการพูดคุยกับ นางคนึงผู้เป็นน้องเล่าว่าตนเองเป็นเพียงแค่สะใภ้ที่อยู่กินกับสามีมากว่า 20 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันทำให้ที่ดินที่ตนอยู่นั้นเป็นเพียงแค่ผู้อาศัยถ้าตนเองเสียชีวิตก่อนพี่สาวที่ป่วยพี่สาวของตนก็ไม่สามารถอยู่บ้านหลังนี้ได้ตนเองก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงเมื่อ 2-3วันก่อนก็พึ่งเข้าโรงพยาบาลก็ไม่มีคนดูแลพี่ของตนที่ป่วยติดเตียง ก็มีแค่ผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยที่ช่วยตน ออกจากโรงพยาบาลมาหมอบอกว่าตนเป็นโรคหัวใจล้มเหลวและก็กลัวจะตายก่อนพี่สาว จึงวอนผู้ใหญ่ใจบุญช่วยเหลือทเรื่องอาหารการกืน โดยเฉพาะแพมเพิส มันต้องใช้ทุกวันส่วนเงินตนเองก็ไม่มีเพราะตนเองไม่ได้ทำงานแต่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ลำพังเงินคนแก่ก็หมดแล้ว

ด้านนายจตุพร ด้วงศรี ผู้ใหญ่บ้านเล่าว่าตนเองพร้อมผู้ช่วยได้ทราบข้อมูลดังกล่าวและช่วยเหลือคุณยายทั้งสองมาโดยตลอดซึ่งตอนนี้ผมและผู้ช่วยก็แบ่งภาระหน้าที่ช่วยกันดูแลยายทั้งสองคนนี้เท่าที่ตัวเองจะทำได้เพราะยายทั้งสองคนนี้ดูแลกันตามลำพังซึ่งก่อนหน้านี้นางคนึงผู้เป็นน้องก็ป่วยเข้าโรงพยาบาลตนเองก็ไปเฝ้าและให้ผู้ช่วยดูแลยายทุเรียนผู้เป็นพี่ที่ติดเตียงอยู่ที่บ้าน แต่ที่น่าห่วงที่สุดก็คือบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านของยายทั้งสองโดยอาศัยที่ดินของผู้อื่นอยู่ซึ่งมีข้อตกลงกันและลงบันทึกประจำวันกันไว้ว่า หากนางคนึงผู้เป็นน้องเสียชีวิตก่อนนางสาวทุเรียนไม่สามารถอยู่บ้านหลังนี้ได้อีกต่อไปเคยประสานไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเขาก็บอกว่าให้รอไปตามคิวก่อนแต่ซึ่งที่ผมมองแล้วสภาพคล่องของร่างกายและความเป็นอยู่ของยายทั้งสองน่าเป็นห่วงมาก

อำพล เทียนงาม ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนครนายก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ