ทางแม่ของนายสมภรณ์ หรือเอส อายุ 49 ปี ข้าราชการเกษตรอำเภอใน จ.อุดรธานี และเป็นโค้ชทีมฟุตบอลเด็ก ซึ่งล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่มาเรียนฟุตบอล จำนวน 10 รายจนถูกตำรวจจับกุม ได้เผยว่า โค้ชเอสเป็นลูกคนที่ 5 จากลูกที่ตนมี 6 คน เขาเป็นลูกชายคนเดียว ตนไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะทำแบบนี้

อย่างไรก็ดีในส่วนของพ.ต.เกียรติศาสตร์ อายุ 64 ปี อดีตนายทหารเกษียณราชการ เป็นผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล เคยพาเด็กๆ ไปนอนที่ห้องของลูกด้วย ส่วนจะกระทำอนาจารหรือไม่ ตนไม่ทราบ ย้อนไป 30 ปีที่ลูกตนทำทีมฟุตบอลมา เขาไม่เคยมีเรื่องไม่ดีเลย เพราะตนอยู่บ้านเดียวกับลูก

ตอนนี้สงสารลูกมา อยากจะขอความเป็นธรรม วิงวอนตำรวจพิสูจน์เรื่องนี้ให้กระจ่าง หากเขาทำผิดก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หากไม่ผิด ก็ขอความเป็นธรรม เพราะเขายังต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ แถมเป็นลูกที่รับราชการ ถ้าออกไปแล้ว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อนาคตลูกยังไปได้ไกล พ่อแม่เด็กคนอื่นก็รักลูกตนมาก เคยเอาของมาฝาก ไม่เคยเห็นมีเรื่อง

ด้านน้าสาวโค้ชเอสเผยว่า ตอนเห็นข่าวก็ช็อกมาก เชื่อว่าเขาเป็นคนดีของครอบครัว ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยผู้ต้องหา เพราะเขารับราชการ ช่วยเหลือพี่น้องและเด็กที่ติดยา นิสัยส่วนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ตอนเรียนก็เกรดเฉลี่ยดี

โดยหลานคนนี้ไปรู้จักกับผู้พันทางไลน์และเฟซบุ๊กมาได้ 3 ปีแล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ ยืนยันว่าหลานเป็นคนดี ชาวบ้านก็ยกย่อง ไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้

ขณะที่พี่สาวโค้ชเอส เผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนไม่หลับเลย สงสารน้อง ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องไม่ดี ส่วนที่เป็นโสด เขาบอกว่ามีสาวมาติด แต่เห็นสภาพครอบครัวของพี่สาวหลายคน เลยไม่อยากมีเมีย เด็กที่มาซ้อมฟุตบอลนั้น พ่อแม่ก็มารับส่งตลอด ไม่คลาดสายตา ตนไม่ได้ใส่ร้ายใคร หลังจากรู้จักผู้พัน น้องก็มีปัญหา

อย่างไรก็ดี หากน้องทำผิดจริง ก็ต้องยอมรับ แต่อยากให้น้องชายต่อสู้และขอความเป็นธรรมให้เขาด้วย