วันที่ 11 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวดัง ได้รายงานเรื่องราวสุดสะเทือนใจของคุณยายท่านหนึ่งที่ได้เดินทางมาจากจังหวัดอุตรดิตถ์พร้อมหลานเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

โดยยายเล่าว่า ได้ไปกู้เงินนอกระบบ เงินดอกลอยร้อยละ 20 ต่อวัน มาลงทุนซื้อหอมกระเทียมขายแล้วถูกโกง ทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ ต้องหากู้เงินนอกระบบมาหมุนวนจ่าย ทำให้เป็นงูกินหาง รวมแล้วจ่ายดอกวันละ 3,000 กว่าบาท เงินทองหามาได้ ไม่เคยได้ซื้ออะไรกิน เงินจะซื้อขนมให้หลานกินยังไม่มี ต้องเก็บส่งเป็นค่าดอกให้หนี้นอกระบบหมด หากวันไหนไม่ส่งเจ้าหนี้จะโทรมาด่า บุกมาขมขู่คุกคามถึงที่บ้าน

ตากับยายกินไม่ได้นอนไม่หลับ มานานหลายเดือน ยายจึงปรึกษากับตาว่า ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เรา 2 คนอาจจะต้องยอมให้ใครสักคนตายจะได้เอาเงินประกันมาใช้หนี้

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 พ.ย.66 มีเจ้าหนี้มาทวงค่าดอก ยายล้วงกระเป๋ามีเงินอยู่เพียง 3 บาท เจ้าหนี้ได้ด่าทอทั้งตาและยายด้วยคำพูดที่หยาบคายขึ้นมึงขึ้นกู ข่มขู่ว่าจะทำร้ายยาย ตาไม่มีทางออกเลยตัดสินใจแอบไปผูกคอตาย เพื่อให้ยายนำเงินฌาปนกิจ มาจ่ายให้เจ้าหนี้นอกระบบ แต่หลังจากนำเงินฌาปนกิจของตาที่ตายไปหลังจากหักค่าทำศพ นำไปจ่ายหนี้นอกระบบก็ยังหักค่าดอกไม่พอ เพราะเจ้าหนี้แต่ละรายอ้างว่ายายค้างค่าดอกมาหลายวัน ทำให้ต้องนำดอกมาคิดเป็นเงินต้น จึงทำให้ค่าดอกต้องเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เจ้าหนี้มาข่มขู่จะเอาเงินที่ยายเพิ่ม โดยขู่ว่าถ้าหาเงินไม่ได้ก็เตรียมตัวตายตามตาไปจะได้มีเงินมาใช้หนี้

ยายเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากยังมีหลานที่ต้องเลี้ยงอีก 2 คน รู้สึกหมดหนทาง จึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ ยาย ได้ไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบมาแล้ว ณ ศูนย์ดำรงธรรม ที่ว่าการอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนไว้ให้เฉยๆ ไม่มีการช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด เมื่อยายกลับมาบ้านเจ้าหนี้ก็มานั่งรอเก็บดอกเหมือนเดิม ข่มขู่เหมือนเดิม เหมือนรัฐบาลไม่มีนโยบายช่วยเหลือใดๆเลย