จับแล้วฆ่าโหดหนุ่มใหญ่ ที่แท้ฝีมือเมียและลูกเลี้ยง สารภาพสิ้นไส้ลูกสาวขึ้นคร่อม ก่อนแทง 7 แผล

จับแล้วฆ่าโหดหนุ่มใหญ่ ที่แท้ฝีมือเมียและลูกเลี้ยง สารภาพสิ้นไส้ลูกสาวขึ้นคร่อม ก่อนแทง 7 แผล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ร.ต.อ.เอก แซงเพชร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุ พบศพคนเสียชีวิตที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด ระหว่างบ้านนา บ้านโพธิ์ ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งเหตุ จึงได้รายงานให้ พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบศพชาย 1 ราย สวมกางเกงขาสั้นสีกรมท่า เสื้อยืดแขนสั้นสีเลือดหมู จากการตรวจสอบสภาพศพ พบมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม บริเวณต้นคอด้านซ้ายเป็นแผลลึก และบาดแผลถูกแทงตามหน้าอก และแผ่นหลัง ไม่ต่ำกว่า 5 แผล ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสถาพร จินคำพะเนาว์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 15 ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ต่อมา พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาข้อมูลพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ โดยในเบื้องต้น ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในเส้นทางระหว่าง ต.โพนข่า มายังจุดที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความเชื่อมโยงกันว่าผู้เสียชีวิต จะถูกฆ่ามาตั้งแต่จุดอื่น แล้วนำศพมาทิ้งที่จุดนี้หรือไม่ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ นางภูริชา อายุ 51ปี ภรรยาของ นายสถาพร จินคำพะเนาว์ อายุ 48 ปี ซึ่งถูกคนร้ายใช้มีดแทงตายอย่างเหี้ยมโหด หลังจากที่ นางภูริชา ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ นางเพ็ชรทิม อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางภูริชา นายธนโชค อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กของนางภูริชา และนายพีรพัฒน์ อายุ 21 ปี เพื่อนของนายธนโชค ได้ร่วมกันฆ่า นายสถาพร ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.00 – 03.00 น. ของคืนวันที่ 8 ธ.ค. 2566 จากนั้น ได้นำเอาศพของนายสถาพร มาทิ้งไว้ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยแฮดเพื่ออำพรางคดี โดยมี นายประเสริฐ กาลพัฒน์ ทนายความชื่อดัง ร่วมรับทราบการสอบปากคำด้วย

พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้นำ นางภูริชา ซึ่งเป็นภรรยาของนายสถาพร นางเพ็ชรทิม อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางภูริชา นายธนโชค อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กของนางภูริชา โดยนางเพ็ชรทิม และนายธนโชค เป็นลูกเลี้ยงของนายสถาพร และนายพีรพัฒน์ อายุ 21 ปี เพื่อนของนายธนโชค มาสอบสวน แต่ปรากฏว่าให้การไม่ตรงกัน พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการแยกสอบสวน สุดท้ายทั้ง 4 คน ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันฆ่า นายสถาพร จริง โดยขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 01.00 – 03.00 น. ของคืนวันที่ 8 ธ.ค. 2566 โดยก่อนเกิดเหตุ นายสถาพร ได้นำเอารถยนต์ไปซ่อม จากนั้น นายสถาพร ได้ดื่มสุราจนมึนเมากลับมาบ้าน และได้มีปากเสียงดุด่านางภูริชา ซึ่งเป็นภรรยาของตนเองด้วยความหึงหวง เนื่องจากว่า นางภูริชา เป็นคนหน้าตาดีมีเสน่ห์ ทำให้นายสถาพร หึงหวงมาก และมักจะดุด่าเมียของตนเป็นประจำ

พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโท รอง ผกก.สอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ซึ่งหลังจากนายสถาพร ด่าว่านางภูริชาอย่างรุนแรงแล้ว ได้เข้าไปนอนในห้องนอน ซึ่งด้วยความโกรธสะสมมาเป็นเวลานานที่โดนด่าว่าเป็นประจำ นางภูริชา จึงได้เข้าไปในห้องนอนและได้ใช้มือกดไหล่ของนายสถาพรเอาไว้ ส่วน นายธนโชค อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กของนางภูริชา ได้จับขาของนายสถาพรเอาไว้ ต่อมานางภูริชา ปวดแขน จึงได้ให้นายพีรพัฒน์ อายุ 21 ปี เพื่อนของนายธนโชค มาจับแขนและกดหัวไหล่ของนายสถาพรเอาไว้ จากนั้น นางเพ็ชรทิม อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางภูริชา เป็นคนขึ้นคร่อมร่างของนายสถาพรเอาไว้ จากนั้น ใช้มีดที่นำเอามาจากในบ้านแทงนายสถาพรอย่างไม่ยั้งที่บริเวณหน้าอกประมาณ 7 แผล จนทำให้นายสถาพรเสียชีวิตคาที่ หลังจากนั้น ได้นำเอาที่นอนห่อร่างของผู้ตายนำขึ้นไปใส่ท้ายรถเก๋งยี่ห้อนิสสันสีแดง หมายเลขทะเบียน กท 9204 ศรีสะเกษ นำศพของนายสถาพรไปทิ้งไว้บริเวณสะพานอ่างเก็บน้ำห้วยแฮด และนายธนโชคได้นำมีดอาวุธสังหารไปทิ้งลงไปในห้วยซัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (10 ธ.ค.66) เวลา 09.00 น. ตนจะได้นำเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมชุดประดาน้ำ ไปงมหาอาวุธมีดของกลาง ซึ่งคดีนี้ไม่ได้มีการใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแต่อย่างใดใช้มีดแทงอย่างเดียว คดีนี้ได้ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้นทำลายศพ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ฉัตรชัย พรหมมาศ ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดศรีสะเกษ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ