ชาวโซเชียลแห่ส่งกำลังใจ ดร.เค็ง นักเรียนทุน ป.เอก  เกิดอาการจิตเวชกำเริบ ม.ให้ลาออก แถมฟ้องเรียกเงินกว่าสิบล้าน

ชาวโซเชียลแห่ส่งกำลังใจ ดร.เค็ง นักเรียนทุน ป.เอก เกิดอาการจิตเวชกำเริบ ม.ให้ลาออก แถมฟ้องเรียกเงินกว่าสิบล้าน

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเล่าเรื่องราวของนักเรียนทุน ป.เอก รายหนึ่ง ซึ่งกลับมาทำงานใช้ทุนที่มหาวิทยาลัยในไทย แต่เกิดอาการป่วยจิตเวชกำเริบ ทำให้ผู้บริหารขอให้ลาออกและฟ้องค่าชดเชยทุนที่ยังใช้ไม่หมด โดยระบุข้อความว่า เค็งเกิดในครอบครัวคนจีนที่มีพี่น้อง 9 คน เธอเป็นคนที่ 8 ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจนในวัยเด็ก พี่ๆ ต้องทำงานส่งเสียเธอเรียน และเธอเป็นคนเดียวในบ้านที่มีโอกาสเรียนหนังสือจนจบปริญญาเอก ด้วยทุนกระทรวงวิทย์ฯ และม.แม่ฟ้าหลวง

เรื่องมีอยู่ว่าตอนเธอเรียน ป.เอก อยู่ที่อังกฤษอยู่นั่นเธอป่วยด้วยโรคจิตเวช เธอเข้าสู่กระบวนการรักษาในโรงพยาบาล แต่โชคดีระบบการดูแลของมหาวิทยาลัยที่นั่นดีมากจนอาการของเธอกลับมาดีและเรียนจนจบ ป.เอก และกลับมาทำงานใช้ทุนเป็นอาจารย์อยู่ที่ ม.แม่ฟ้าหลวง และเมื่อทำงานเป็น อ.ได้อีกสักระยะหนึ่งอาการป่วยของเธอกำเริบและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ผู้บริหารขอให้เธอลาออก ด้วยสภาวะการเจ็บไข้ทำให้เธอเขียนข้อความลาออกทางอีเมลในขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการใช้ทุน และมหาวิทยาลัยก็ฟ้องเธอเรียกเงินชดเชยทุนที่ส่งเธอไปเรียนนับสิบล้านบาท ดร.เค็ง ไม่รู้เลยว่าการเจ็บป่วยของเธอนั้นจะนำไปสู่ความยุ่งยากถึงขนาดนี้

เธอเดินเร่ร่อนอยู่ที่เชียงราย ขี่จักรยานจากในเมืองไปแม่จัน พูดคนเดียว ไม่อาบน้ำ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเดิมๆอยู่เป็นปี เธอป่วยจิตเวชเต็มรูปแบบ กว่าเธอจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาก็ผ่านไปหลายปี แม้ตอนนี้อาการจิตเวชจะดีขึ้นแล้วเธอยังมีอาการซึมเศร้า และรับรู้ว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับการฟ้องร้องจนต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลายและทำให้พี่ชายที่เซ็นค้ำประกันตอนขอทุนได้รับความเดือนร้อนไปด้วย เค็งต่อสู้คดีโดยลำพังในศาลปกครองในขณะที่เธอยังอยู่ในสภาพที่แม้ดีขึ้นแต่ไม่ปกติ เธอสู้ว่าเธอไม่ได้หนีทุน

แต่เพราะเธอป่วยซึ่งมิใช่การกระทำของตนเอง ซึ่งในระเบียบของกระทรวงวิทย์ฯได้มีข้อยกเว้นการใช้ทุนหากเจ็บป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ แต่ ม.แม่ฟ้าหลวง สู้ในประเด็นว่าเธอลาออกและไม่ทำงานใช้ทุน ศาลรับพิจารณากรณีเพียงได้ใช้ทุนหรือไม่ แต่ไม่ได้พิจารณาว่าป่วยหรือไม่ป่วย เธอแพ้คดีในศาลปกครองชั้นต้น และอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ คนที่เคยเป็นความหวังของครอบครัวกลับกลายอยู่ในสภาพที่ถูกฟ้องร้องด้วยเงินนับสิบล้านบาท แม้พยายามขอกลับเข้าไปทำงานเพื่อยุติข้อพิพากก็ไม่ได้รับโอกาส

จนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2566 เธอได้กลับไปทำงานให้กับมูลนิธิฯแห่งหนึ่งอยู่ภายใต้หน่วยงานรัฐ ซึ่งเป็นการกลับเข้าสู่การทำงานในรอบสิบปี และเธอมีความสุขมาก แม้หัวหน้างานจะบอกว่างานวิจัยของเธอนั้นทำงานที่บ้านได้ แต่เธออยากออกมาเจอผู้คนและกลับเข้าสู่การทำงานอีกครั้ง

นอกจากนี้ บก.ลายจุด ยังระบุอีกว่า รากปัญหาหนึ่งที่ซ่อนอยู่่ในกรณีแบบนี้คือ แรงบีบคั้นจากการศึกษาแม้เธอจะเรียนจนจบแต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับการออกไปใช้ชีวิตลำพังในต่างประเทศและเรียนหนังสืออย่างหนัก และไม่ใช่ทุกคนรับมือกับเรื่องแบบนี้ได้ “ผมเคยร่วมแลกเปลี่ยนกับมิตรสหายใน Clubhouse ที่นำประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นหัวข้อเลยทีเดียว

ว่าการศึกษาเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งของการป่วยเป็นโรคจิตเวช ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินว่าเรียนจนเป็นบ้า มันมีที่มาจริงๆ และเป็นเรื่องที่ควรทำให้เกิดความรู้และมีระบบในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้” บก.ลายจุดกล่าว หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้มีคนเข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงมหาวิทยาลัยและการทำงานของศาล พร้อมทั้งให้กำลัง ดร.เค็ง อย่างท่วมท้น

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ