สาวมหาภัยอ้างสารพัด หลอกยืมเงิน ยืมรถไปจำนำ เช่าชื้อแล้วไม่จ่าย ผู้เสียหายนับสิบ

สาวมหาภัยอ้างสารพัด หลอกยืมเงิน ยืมรถไปจำนำ เช่าชื้อแล้วไม่จ่าย ผู้เสียหายนับสิบ

วันที่ 26 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีที่มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาตีสนิทกับครอบครัว และมาอ้างมาหลอกสารพัดเพื่อหยิบยืมทรัพย์สินเงินทอง แต่มารู้ภายหลังว่าทรัพย์สินที่ถูกยืมไป ถูกเอาไปจำนำ บางคนเสียรู้ไปผ่อนของผ่อนรถให้แต่กลับไม่จ่าย อ้างแม้กระทั่งว่าแม่ป่วยหนักเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย บางคนก็เจออ้างแม่ตายต้องใช้เงินจัดงานศพ ทั้งที่ความจริงแม่ไม่ได้เป็นอะไร แถมแม่ก็ยังเป็นหนึ่งในเหยื่อ ถูกเอาชื่อไปขอกู้ยืมเงิน ติดหนี้ไม่รู้ตัว

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายประดง คิดเพียร อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 47 ม.28 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เล่าว่า หลานชายซึ่งเป็นลูกของพี่ชาย ได้รู้จักกับผู้หญิงชื่อ น.ส.พรศิริ บัวอินทร์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 140 ม.2 ต.เวียงห้าว อ.พาน จ.เชียงราย มาได้ประมาณ 6 เดือน และพามารู้จักกับทางครอบครัว โดยหลังจากมารู้จักกันได้สักพัก ผู้หญิงคนดังกล่าวก็พยายามเข้ามาอ้างสารพัดเพื่อขอยืมเงิน หรือมาขอยืมรถซึ่งมารู้ภายหลังว่าเอาไปจำนำ ก่อนจะหนีหายติดต่อไม่ได้

นายประดง เผยต่อว่า ในกรณีของตน น.ส.พรศิริ ได้มาขอยืมรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กม 8082 เชียงราย ซึ่งตนเห็นว่าเป็นคนที่หลานชายพามา กำลังคบหาดูใจกัน ก็เลยเชื่อใจให้ยืมรถไป แต่มารู้ภายหลังว่าผู้หญิงคนนี้นำรถของตนไปจำนำกับนายทุนในตัวเมืองเชียงราย ในราคา 30,000 บาท เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา และตนมาทราบเมื่อวันที่ 2 พ.ย. จึงติดต่อขอให้เอารถมาคืน แต่หญิงดังกล่าวกลับบอกว่าไม่มีเงินไปไถ่คืน ตนจึงบอกว่าให้เอารถมาส่งแล้วจะจ่ายค่าไถ่คืนเอง และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดักที่จุดนัดหมาย แต่ปรากฏว่าเขาจ้างให้นายทุนที่รับจำนำรถ 1,000 บาท ให้นำรถมาส่งให้ตน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ตนและนายทุนที่รับจำนำรถไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันเอง สุดท้ายตนก็ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อไถ่รถของตนเองคืน โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถดำเนินการไดๆกับผู้หญิงคนมาหลอกเอารถไปจำนำและนายทุนที่รับจำนำรถได้ และมาทราบภายหลังว่าก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้ได้เคยนำรถของตนไปจำนำมาแล้วครั้งหนึ่ง ในราคา 50,000 บาท แต่รอบนั้นพี่ชายของตนได้ไปไถ่ถอนออกมา โดยที่ตนไม่ทราบเรื่อง

นายประดง บอกอีกว่า ในกรณีของครอบครัวพี่ชายของตน ซึ่งเป็นพ่อของหลานชายที่พาผู้หญิงคนนี้เข้ามา ถูกหลอกเอารถกระบะ 1 คัน รถมอเตอร์ไซค์อีก 2 คัน เอาไปจำนำเช่นกัน แถมยังมาหลอกพี่สะไภ้ว่าแม่ป่วยหนัก เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ต้องใช้เงินในการรักษา พี่สะไภ้ก็ให้ยืมเงินไปอีก 100,000 บาท สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆติดต่อไม่ได้ ทราบมาว่าหลานชายติดต่อผู้หญิงคนดังกล่าวได้ แต่พยายามถามแล้วเขาไม่ยอมบอก และมีเบาะแสจากคนที่ตกเป็นเหยื่อเหมือนกันว่าไปอยู่กับสามีใหม่แถว ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย แต่ก็ไม่ทราบว่าผู้ชายที่ไปอยู่ด้วยจะโดนหลอกด้วยหรือเปล่า

ตนและครอบครัวได้พยายามไปสอบถามกับทางบ้านของ น.ส.พรศิริ ก็ไปพบกับแม่ของ น.ส.พรศิริ ซึ่งแม่ก็บอกว่าตัดแม่ตัดลูกกันไปนานแล้ว ไม่ขอรับทราบที่ลูกได้ทำไป เพราะแม่ก็โดนเอาชื่อไปแอบอ้างยืมเงิน ต้องติดหนี้หลักแสนบาท บางคนก็อ้างว่าแม่ป่วยหนักบ้าง แม่ตายแล้วบ้าง คนสงสารก็ให้ยืมเงินมาจัดงานศพ มีอยู่รายหนึ่งเดินทางมาจากอีสาน เพราะทราบข่าวว่าแม่เสียชีวิตก็เลยให้ยืมเงิน 200,000 บาท และแต่งชุดดำเดินทางมาร่วมงานศพ แต่พอมาถึงกลับพบว่าแม่ไม่ได้เป็นอะไร ทุกวันนี้ก็ต้องชดใช้เงินแทนลูกสาวอยู่ และมีข้อมูลมาว่าผู้หญิงคนดังกล่าวยังไปหลอกคนในหลายพื้นที่ เช่น ที่ อ.เชียงของ ถูกหลอกสูญเงินไปนับล้านบาท ที่ อ.แม่ลาว ไปหลอกเขาเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ให้แต่ไม่จ่าย มีร้านขายโทรศัพท์ที่ถูกหญิงดังกล่าวเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือไปแต่ไม่จ่ายเงินก็มี เท่าที่รู้จักและติดต่อกันได้มีประมาณ 5-6 ราย แต่คนที่ไม่รู้จักคาดว่าจะมีอีกหลายราย อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นภัยสังคม นายประดง กล่าว

วินัย ไชยสถาน ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดเชียงราย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ