อัยการคดี เสี่ยแป้ง แจงเหตุผล ทำไมจึงสั่งฟ้องเพียงแค่ เสี่ยแป้ง

อัยการคดี เสี่ยแป้ง แจงเหตุผล ทำไมจึงสั่งฟ้องเพียงแค่ เสี่ยแป้ง

จากกรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษที่หนีออกจากโรงพยาบาลนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2566 กระทั่งเจ้าหน้าที่พบว่าหนีไปอยู่กลางป่าบนเทือกเขาบรรทัดจนนำไปสู่การปิดล้อมตรวจค้นและเกิดการปะทะกันกลางป่าเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเสี่ยแป้ง สามารถหลบหนีวงล้อมของตำรวจไปได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ระดมทีมติดตามไล่ล่านานกว่า 1 เดือน แต่ก็ยังไร้วี่แววเจอตัว

เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อวานนี้ (24 พ.ย. 2566) รวมไปถึงวันนี้ มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นเสี่ยแป้ง ได้ออกมาอัดคลิป บอกเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแฉรายชื่อคนร่วมกระทำผิดตั้งแต่ตำรวจ อัยการ และนักการเมืองท้องถิ่น แต่ทั้งหมดกลับไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด ทั้งยังบอกอีกว่าหากไม่ยอมจับบุคคลที่กล่าวในคลิปจะไม่ยอมมอบตัว หากไปมอบตัวตอนนี้คงโดนเก็บแน่ ๆ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด Nation ได้พูดคุยกับ แหล่งข่าวอัยการท่านหนึ่ง (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เปิดเผยถึงการสั่งฟ้องคดีดังกล่าว ว่า ขณะนั้นคดีของนายแป้งที่เข้ามานั้นเป็นคดี เมื่อปี 2562 คดีพยายามฆ่าตำรวจ ภาค 8 เหตุเกิด สภ.นาขยาด จ.พัทลุง และคดีพยายามฆ่าผู้อื่น เหตุเกิด สภ.เมืองพัทลุง ขณะนั้นกระบวนการของคดีของ นายเชาวลิต ทองด้วง สำนวนคดีเข้าสู่อัยการจังหวัดพัทลุงและเข้าสู่อัยการภาค 9 เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ซึ่งอัยการท่านนี้ขณะนั้นทำหน้าที่เป็นผู้พิจารณาคดีนี้

ก่อนหน้านั้นต ลอดกระบวนการอัยการตั้งแต่ระดับจังหวัดจนถึงรองอธิบดีภาค 9 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่อัยการผู้ทำคดีนี้เล่าว่าหลังอ่านสำนวนแล้วเกิดข้อขัดแย้งจึงสั่งสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากมีข้อเท็จจริงในสำนวนที่พิรุธหลายข้อ โดยพบว่า ตำรวจนายที่ถูกอุ้มในขณะนั้น ไม่ยอมชี้ตัวผู้ต้องหา เมื่อเราสืบประวัติลึกลงไปอีก ตำรวจ ภาค 8 นายนี้

เคยจับเสี่ยแป้ง เมื่อปี 2560 คดีฆ่าผู้อื่น เหตุเกิด สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แต่ไม่ยอมชี้ตัวผู้ต้องหา ทั้งที่เคยเห็นหน้าและรู้จักกัน อัยการท่านนี้จึงมองว่า มีข้อพิรุธที่เหมือนเตรียมการกันมาก่อน เพื่อที่จะไม่ชี้ตัว จึงตัดสินใจสั่งฟ้องผู้ต้องหา คือ เสี่ยแป้ง และ นายจรวด ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ๆ ไม่มีพยานหลักฐานที่สามารถโยงถึงตัวจึงสั่งไม่ฟ้อง

อย่างไรก็ตาม อัยการท่านนี้ ยังบอกอีกว่า ตลอดอายุราชการที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ความมั่นคง สั่งไม่ฟ้องคดีมากกว่าสั่งฟ้อง เนื่องจากมองว่า การสั่งไม่ฟ้องนั้นหากพยานหลักฐานไม่เพียงพอเราสามารถหาหลักฐานใหม่ เพื่อสั่งฟ้องในภายหลังได้ แต่หากมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วนั้น พยานหลักฐานต้องแน่นพอที่จะให้ศาลพิจารณาลงโทษเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นการฟอกตัวให้กับผู้ต้องหา หากที่สุดแล้วศาลพิจารณาว่าไม่มีความผิด

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ