หนุ่มถูกหลอกไปทำงาน คอลเซนเตอร์กัมพูชา โดนบังคับให้เป็นคอลเซนเตอร์หลอกคนไทย

หนุ่มถูกหลอกไปทำงาน คอลเซนเตอร์กัมพูชา โดนบังคับให้เป็นคอลเซนเตอร์หลอกคนไทย

วันที่ 11 พ.ย. 66 นางบุญแรม บุญมี อายุ 40 ปี ชาว อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัยมารดาของ นายวชิรวิทย์ คงทอง อายุ 25 ปี อยู่เสียชีวิตในเรือนจำจังหวัดสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา เดินทางมารอรับศพลูกชาย บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก พร้อมญาติพี่น้อง โดยมีตัวแทนมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน LPN เดินทางมาช่วยอำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือด้านการจัดเตรียมเอกสารการรับร่าง และการบำเพ็ญกุศลด้วย นางบุญแรม กล่าวว่า นายวชิรวิทย์ ถูกหลอกเข้าไปทำงานในประเทศกัมพูชาโดยบังคับให้เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกคนไทย ทำหน้าได้ไม่ถึงปีก็จะเลิก เพราะไม่อยากหลอกลวงคนไทยด้วยกัน แต่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บังคับรุมทำร้ายจนเกิดต่อสู้กัน และแก๊งคอลเซ็นเตอร์เสียชีวิตไป 1 คน นายวชิรวิทย์จึงถูกจับติดคุก 12 ปี แต่ติดคุกได้เพียงไม่ถึงปี นายวชิรวิทย์ก็ป่วยในคุกเป็นโรคปอดบวม พยายามติดต่อฝ่ายกัมพูชา เพื่อขอรับร่างนายวชิรวิทย์

สุดท้ายต้องเสียเงินให้กัมพูชากว่า 7 หมื่นบาท ไม่มีหน่วยงานราชการให้ความช่วยเหลือ เงินก็ไม่มี หลังจากรับร่างแล้วก็จะทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองมะขาม ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราดเพียงคืนเดียว รุ่งขึ้นก็จะฌาปนกิจเลย นางบุญแรม กล่าวต่อว่า นายวชิรวิทย์พยายามเขียนจดหมายติดต่อทางบ้านเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าถูกบังคับขู่เข็ญให้ทำงานหลอกคนไทย และไม่มีเงินใช้ บางวันไม่มีอาหารกิน โทรศัพท์ก็ถูกยึด จนสุดท้ายเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยนายวชิรวิทย์เดินทางไป เพราะไม่รู้ว่าจะให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังกล่าว หลังจากนั้นช่วงเย็นใกล้ค่ำเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชานำร่างนายวชิรวิทย์มาส่งมอบให้ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก นางบุญแรมรับร่างแล้วนำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองมะขาม เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 10 พ.ย. มีเพียงญาติพี่น้องร่วมพิธีเพียง 10 คนเท่านั้น

ขณะตัวแทนมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน LPN บอกว่านายวชิรวิทย์ถูกหลอกไปทำงานที่กัมพูชาสองคนกับภรรยา แต่ภรรยาหนีกลับมาได้ นายวชิรวิทย์ได้เขียนจดหมายบอกไว้ว่า ตนเองถูกทารุณทำร้ายร่างกาย ใช้กระบองไฟฟ้าช็อตบังคับให้ทำงาน ถ้าไม่ทำจะถูกทำร้าย จนสุดท้ายต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และลงมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนเสียชีวิตไป 1 คนจนถูกจำคุก ความจริงนายวชิรวิทย์เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ และเมื่อเสียชีวิตแล้วฝ่ายกัมพูชายังตั้งเงินค่าส่งร่างหรือไถ่ร่างกับญาติอีกในราคาแพงถึง 7 หมื่นบาท แทนที่จะให้ความช่วยเหลือเรื่องดังกล่าว ควรที่รัฐบาลไทยจะต้องประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชาในการให้ความช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ยังอยู่ในฝั่งกัมพูชาอีก และขอให้ผู้จะไปทำงานในกัมพูชาพึงตรวจสอบระมัดระวัง อยากให้เคสนี้เป็นกรณีศึกษา เพื่อป้องกันปัญหาเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไปด้วย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ