เปิดประโยคเด็ด นนกุล หลังยอมรับ คุยกับแอฟอยู่ เป็นผู้หญิงคนไหนก็คงต้องใจอ่อน

เปิดประโยคเด็ด นนกุล หลังยอมรับ คุยกับแอฟอยู่ เป็นผู้หญิงคนไหนก็คงต้องใจอ่อน

เรียกได้ว่าทำเอาแฟนฟินจิกหมอนกันไปเลย เมื่อพระเอกหนุ่ม นนกุล ชานน สันตินธรกุล ถูกถามถึงความสัมพันธ์กับนางเอกสาว แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นฝ่ายจีบนางเอกสาวเอง ตอนนี้คุยอยู่แค่คนเดียว สถานะแม้จะยังไม่ใช่แฟน แต่หากขอเป็นแฟนเมื่อไร ระยะเวลาระหว่างคำว่าแฟนไปจนถึงคำว่าภรรยาติดจรวดแน่นอน

กับเรื่องที่เกิดขึ้น อยากจะบอกอะไร?

ก่อนอื่นก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ วันที่ 2 ที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ไป ตัวผมได้รับแค่ข้อสรุปอย่างเดียวว่าจะไม่สัมภาษณ์เรื่องส่วนตัว และตัวผมที่เห็นด้วยเพราะผมแค่รู้สึกว่างานฌาปนกิจยังไม่ถึงเดือนเลย เราก็รู้สึกว่าดีแล้วที่ยังไม่พูดถึงกระแสอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้จิตใจพี่เขาไม่ดี และอีกอย่างเพิ่งเลยเดือนมาได้แค่ 2 วันเองครับ“

วันนี้พร้อมหรือยังที่จะพูดความสัมพันธ์?

”อ๋อ ได้แน่นอนครับ“

ความสัมพันธ์กับแอฟเป็นยังไง?

ครับ คุยกับพี่แอฟอยู่ครับ จริงๆ หลังจากซีรีส์ถ่ายจบเนี่ย เราก็มีคุยกันตามประสาพี่น้องเรื่อยๆ เนอะ แต่ว่าพอเรายิ่งคุยกับพี่เขาแล้วยิ่งรู้สึกว่าชอบพี่เขามากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ แต่ถ้าบอกถึงเซ้นส์ขยับความสัมพันธ์จากพี่กับน้องจนพัฒนาขึ้น ถ้าให้รู้สึกชัดขึ้นจริงๆ ก็น่าจะก่อนงานคุณพ่อได้ไม่นานครับ“

พูดได้ไหมว่านนเป็นคนจีบพี่แอฟ? ”

ใช่ครับ“ เกร็งไหมที่จะจีบเขา เพราะเขาคือแอฟ ทักษอร?

”(หัวเราะ) ก็หวั่นๆ นิดหน่อยครับ แต่เราก็พยายามในแบบของเรา“ เรามีเซ้นส์ยังไงว่าถ้าเราจีบแล้วจะไม่แห้ว?

”(หัวเราะ) จริงๆ เราก็อาจจะมีกลัวแห้วบ้างนะ แต่สุดท้ายเราให้ความจริงใจเต็มร้อยครับ“ ประทับใจพี่แอฟตรงไหน?

“ผมว่าเขาเป็นคนที่เทคแคร์คนอื่นดีมากๆ ครับ พี่เขาเป็นคนใส่ใจทุกรายละเอียดของทุกคนจริงๆ เราเห็นสิ่งนี้แล้วประทับใจในตัวพี่เขาตั้งแต่วันแรก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังประทับใจอยู่“

ร่วมงานละครแล้วมีผลไหม ตอนอยู่กองถ่าย?

“ผมว่าค่อยๆ แล้วกันครับ มันค่อยๆ ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนผมมีอาการป่วยระหว่างถ่ายทำ แล้วพี่เขาส่งของมาเยี่ยมครับผม แล้วเรารู้สึกประทับใจ จากนั้นก็ค่อยๆ คุย“

วิธีการสื่อสารที่ทำให้เขาเริ่มเปิดใจทำยังไง?

“ไม่ได้บอกตรงๆ ครับ เราก็แค่พยายามเหมือนกับชวนพี่เขาไปทานข้าว มีชวนไปดูหนัง“

ต้องผ่านด่านน้องปีใหม่ก่อน?

”มีบ้างครับ แต่น้องปีเป็นคนน่ารักอยู่แล้วครับ เวลาเจอน้องปีเขาเข้ากันได้กับทุกคนอยู่แล้ว“ พอรู้จักกันแล้วเขาเปลี่ยนไปเยอะไหม หมายถึงสิ่งที่เราคิดไว้กับที่เรารู้จักตอนนี้?

“ณ ตอนนี้ยังไม่เปลี่ยนนะครับ อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ว่าความสัมพันธ์มันเริ่มชัดเจนทั้งสองคน ตอบรับทั้งสองคน เพิ่งจะก่อนงานคุณพ่อได้ไม่นานครับผม“

อย่างงานวันนี้ที่เราจะสัมภาษณ์ เราได้บอกพี่แอฟไหม? “มีบอกแน่นอนครับ ก็ตอบตามความเป็นจริงครับ (ถ้าพี่แอฟออกงานคราวหน้าก็ถามเรื่องนี้ได้?)

แน่นอนครับ“ แรงเชียร์จากแฟนคลับเป็นไงบ้าง อบอุ่นหัวใจขึ้นไหม?

“ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ นะครับที่คอยเชียร์คอยสนับสนุนมากมายขนาดนี้ครับ เราก็เป็นคนธรรมดาทั้งคู่ที่ก็ดีใจ อย่างน้อยความชอบพอของเราสองคนมันทำให้ทุกคนยิ้มได้ครับ“

แต่ก็มีบางคนมองเรื่องอายุ เรามองตรงนี้ยังไงบ้าง?

”ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอะไรนะครับ สุดท้ายไม่ว่าจะวัยไหนหรือเพศไหนก็แล้วแต่ มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้าเกิดเราเข้าใจกัน ผมว่าก็โอเคครับ“

จริงๆ พี่แอฟมีกำแพงเรื่องนี้ไหม หรือเรากลัวเรื่องนี้ไหม?

”ตัวผมก็ไม่แน่ใจ วันแรกที่เราค่อยๆ พยายามชวนคุย แต่พอมาถึงวันนี้ ณ วินาทีนี้ ผมก็หวังว่าจะไม่มีกำแพงนั้นเหลือแล้ว (ยิ้ม)“

แสดงว่าวันนี้ยังไม่ได้สรุปสถานะว่าอะไรยังไง?

“คือตอนนี้ผมพูดได้เต็มปากว่าผมคุยกับพี่เขาอยู่นะครับ และเป็นคนเดียวเท่านั้นที่คุยด้วย แต่เราทั้งสองคนยังไม่ได้ใช้คำว่าแฟนนะครับ เพราะบังเอิญว่าผมกับพี่เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้มากๆ ครับ แต่ก็ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าเกิดวันไหนที่เราสองคนเลือกที่จะใช้คำว่าแฟนขึ้นมา ระยะเวลาระหว่างคำว่าแฟนไปจนถึงคำว่าภรรยาติดจรวดแน่นอนครับ“

นนวางแผนไกลขนาดนั้นเลยเหรอ?

“แน่นอนครับ เพราะว่าเราโตๆ กันทั้งคู่แล้วเนอะ แล้วผมก็เข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะใช้เวลากันนานขนาดนั้น เพราะเดี๋ยวพี่เขาไม่รอผม (ยิ้ม)“

วันที่จะขอเขาเป็นแฟน วางแผนไว้ไหมว่าเราอยากทำอะไรบ้าง?

“ผมว่ายังไม่มีอะไรพิเศษครับ คิดว่าจะให้มันเรียบง่ายที่สุด ไม่ต้องเอิกเกริกอะไรมากมาย เพราะสุดท้ายมันก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่ขยับสถานะเป็นแฟนกัน“

ถ้าขยับสถานะเป็นแฟนกันแล้วเร็วเลย อันนี้พี่เขารับรู้ด้วยใช่ไหม?

“ยังครับ“

หลายคนประทับใจตอนงานคุณพ่อที่ผ่านมาเราก็เป็นกำลังใจและช่วยทุกอย่าง?

”เราก็แค่ทำในสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราสบายใจที่จะทำ เราขอแค่ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว คือจริงๆ ที่งานคุณพ่อพี่แอฟเนี่ยจริงๆ ผมไม่ค่อยได้ช่วยอะไรขนาดนั้นนะ จะเป็นญาติๆ เพื่อนๆ พี่เขามากกว่าที่คอยช่วยเหลือมากมาย เราไปแค่เป็นกำลังใจให้พี่เขาให้รู้ว่าอย่างน้อยถ้าเกิดหันมาก็ยังมีกำลังใจอยู่ตรงนี้ครับ“

หลายคนมองว่าเป็นรักแท้ พิสูจน์ได้ตรงนี้เลย?

“(หัวเราะ) ครับผม"

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ