เมื่อวันนี้ (8 พฤศจิกายน 2566) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลมากขึ้น เฉลี่ยสัปดาห์ละ 200 – 300 ราย โดยเป็นการเพิ่มขึ้นที่ยังไม่ถือว่าสูงมาก ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นคนไทย เพราะชาวต่างชาติในประเทศไทย เมื่อป่วยไม่มากจะไม่เข้าพบแพทย์แล้ว

มองว่าที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายงานในระบบเพิ่มขึ้นไม่มาก อาจเกิดจากหลายคนคิดว่าตัวเองเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป เพราะอาการใกล้เคียงกัน จึงไม่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อดูอัตราการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ก็พบว่ายังคงสูงอยู่ ทั้งที่ช่วงนี้ควรจะต้องลดลงแล้ว ฉะนั้น คนที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ ก็ขอให้ตรวจหาเชื้อด้วยเอทีเค (ATK) ดูก่อน เพื่อให้การรักษาตรงตามโรคที่เป็น” นพ.จักรรัฐ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า 2 เดือนสุดท้ายของปี จะเป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยว หรือตั้งวงสังสรรค์ มีการคาดการณ์สถานการณ์อย่างไร นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า โรคโควิด-19 จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีกิจกรรมเยอะ ผู้คนไปมาหาสู่กัน ส่วนไข้หวัดใหญ่จะเริ่มลดลงบ้าง แต่อาจจะยังทอดเวลายาวออกไป เมื่อถามว่า

ขณะนี้มีการจำหน่ายชุดตรวจหาเชื้อด้วยตนเอง ที่สามารถระบุได้ทั้งการติดเชื้อโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ในชุดเดียว นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ชุดตรวจหาเชื้อต่างๆ ด้วยตนเองในปัจจุบันสามารถทำได้ในคราวเดียว แต่ที่ต้องย้ำคือ ชุดตรวจเหล่านั้นจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้อง ซึ่งการตรวจ 1 ครั้ง แล้วทราบเชื้อหลายโรค ก็เป็นสิ่งที่ดี ทั้งประหยัดเวลา และประหยัดทรัพยากร