ส่อง 3 วิธีผ่อนบ้าน ทำง่ายได้ผล ช่วยปิดหนี้ให้หมดไว เลี่ยงดอกเบี้ยโหด

ส่อง 3 วิธีผ่อนบ้าน ทำง่ายได้ผล ช่วยปิดหนี้ให้หมดไว เลี่ยงดอกเบี้ยโหด

กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันสนั่นบนโซเชียลเลยทีเดียว หลังจากที่เมื่อวานนี้ (2 พ.ย. 2566) ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การผ่อนบ้านกับธนาคาร โดยมียอดชำระอยู่ที่ 10,900 บาท แต่ในจำนวนดังกล่าวหักเงินต้นออกไปเพียง 5.50 บาท ส่วนที่เหลือเป็นดอกเบี้ย ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้นวันนี้เราขอแนะนำวิธีผ่อนบ้าน ช่วยปิดหนี้เลี่ยงดอกเบี้ยโหด จะมีวิธีไหนกันบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย

วิธีที่ 1 จ่ายตรงเวลา ทำให้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่ม ยอดเงินกู้จะลดลงตามที่ควรจะเป็น อีกทั้งเป็นการรักษาเครดิตของเราไว้ให้อยู่ในเกณฑ์ลูกหนี้ชั้นดี มีโอกาสที่จะต่อรองกับสถาบันการเงินได้ หากถ้าจ่ายค่างวดช้า ยอดเงินกู้บ้านก็จะลดลงช้า ทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้น และอาจโดนปรับคิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดชำระหนี้ที่สูงกว่าดอกเบี้ยปกติ

วิธีที่ 2 ปรับโครงสร้างหนี้บ้านเพื่อลดดอกเบี้ย มี 2 แบบด้วยกัน

1. รีไฟแนนซ์ (Refinance) ควรรีไฟแนนซ์ทุก ๆ 3 ปี เพราะโดยทั่วไปการผ่อน 3 ปีแรก ธนาคารมักให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ค่อนข้างต่ำ และจากปีที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยมักปรับสูงขึ้นและเป็นแบบลอยตัว การรีไฟแนนซ์จึงช่วยให้ผ่อนบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำอีกครั้ง แต่อาจเสียเวลาเตรียมเอกสารในการขอยื่นกู้ใหม่ทั้งหมด เวลาในการพิจารณาจากสถาบันการเงิน และมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมในการยื่นกู้ใหม่ ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าจดจำนองใหม่ และค่าอากร

2. รีเทนชั่น (Retention) คือ การขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน (เจ้าหนี้ปัจจุบัน) หมายความว่าไม่ต้องเปลี่ยนเจ้าหนี้ใหม่ เพียงแค่ทำเรื่องขอลดอัตราดอกเบี้ย ข้อดีคือไม่เสียค่าธรรมเนียมในการขอยื่นกู้ ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาไม่นาน เพราะธนาคารมีประวัติการผ่อนชำระอยู่แล้ว แต่ข้อเสียคือ อัตราดอกเบี้ยอาจไม่ดึงดูดใจเท่าการรีไฟแนนซ์

วิธีที่ 3 จ่ายโปะ หรือการจ่ายเกินค่างวดที่กำหนด จะตัดยอดเงินกู้ให้ลดลงเร็วขึ้น ทำให้ดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายหลังจากนั้นลดลงไปด้วย ซึ่งเราสามารถจ่ายโปะได้ทุกเมื่อตามความสะดวก ตามที่กำลังทรัพย์จะไหว ยิ่งถ้าช่วงไหนโบนัสออก แล้วอยากโปะค่าบ้านให้หมด วิธีนี้ช่วยได้ดีเลยทีเดียว แต่ควรวางแผนทางการเงินให้ดี มิเช่นนั้นอาจเจอปัญหาตามมาได้ในอนาคต

ขอบคุณ krungsri

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ