จบคดีอิทธิพล! ศาลสั่งจำคุก 6 จำเลย 1 ปี ปรับ 2 หมื่น ทำลายวัด-ปิดโรงเรียน ขับไล่เจ้าคณะจังหวัด

จบคดีอิทธิพล! ศาลสั่งจำคุก 6 จำเลย 1 ปี ปรับ 2 หมื่น ทำลายวัด-ปิดโรงเรียน ขับไล่เจ้าคณะจังหวัด

จากกรณีกลุ่มอิทธิพลก่อเหตุรื้อกำแพงรั้ววัด ปิดทางเข้า-ออกวัด และโรงเรียน ข่มขู่คุกคามขับไล่พระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช รักษาการเจ้าอาวาสวัดอินทาราม หมู่ 3 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้พระภิกษุ ชาวบ้าน และเด็กนักเรียนหลายร้อยคนเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่สามารถนำรถหรือพยานพาหนะทุกชนิดเข้าไปภายในวัดและโรงเรียนได้ ทางคณะสงฆ์และผู้บริหารโรงเรียน ได้เดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กะปาง อ.ทุ่งสง ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุจำนวน 6 คน เมื่อเดือน ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ตามที่เสอนข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด พระราชปฏิยัติเวที หรือ เจ้าคุณเจือ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในขณะนั้นอาตมาดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช คนกลุ่มนี้ ตัดต้นไม้ ทุบทำลายกำแพงวัด และนำเสาปูนมาปักกั้นพื้นที่ภายในวัดเป็นของตัวเอง จนอาตมาพร้อมศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงไปประชุมแก้ปัญหาและสามารถตกลงกันได้ มีการทำบันทึกและทุกฝ่ายรวมทั้งตัวแทนคนกลุ่มนี้ โดยทางคณะสงฆ์ก็ไม่ติดใจเอาความ

แต่ผ่านมาเกือบ 2 ปี เมื่อเปลี่ยนเจ้าคณะจังหวัด เปลี่ยนนายอำเภอ และเปลี่ยน ผกก.ในพื้นที่ คนกลุ่มเดิมกลุ่มนี้ ก็กลับมาก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับวัด โรงเรียนและสังคมส่วนรวมอีกครั้ง การกระทำลักษณะนี้ มันเป็นความผิดที่ตำรวจสามารถจัดการได้ แต่ตำรวจมีข้ออ้างกลัวเรื่องราวบานปลาย คนกลุ่มนี้ก่อเหตุขนาดปิดการเข้าออกวัดและโรงเรียน แต่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกลับไม่กล้าแตะต้อง มันเป็นการปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่

อาตมาอยากให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยึดไปรื้อเอกสารหลักฐานที่มีการร่วมประชุมแก้ปัญหาในวันอังคารที่ 7 พ.ค. 64 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ศปก.สภ.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเอกสารหลักฐานชัดเจนมาก คนกลุ่มนี้กลับมาก่อเหตุซ้ำเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา คดีเก่าก็ยังไม่หมดอายุความ คดีใหม่ก็เกิดขึ้นอีก ตำรวจจึงต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

ต่อมาพนักงานสอบสวน สรุปสำนวนสั่งฟ้องถึงอัยการศาลจังหวัดทุ่งสง มีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดทุ่งสงเช่นกัน โดยในการไต่สวนจำเลยทั้ง 6 คน ให้รับสารภาพตามฟ้องโจทก์ จนเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ศาลพิพากษาลงโทษความผิด ฐานเหยียดหยามศาสนา จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท จำเลยทั้ง 6 รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญากำหนด 3 ปี คุมประพฤติ 3 ปี กำหนดเงื่อนไขห้ามเข้าไปกระทำการรบกวนโจทก์ รวมทั้งวัด โรงเรียน และชุมชนอีก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ