หนุ่มยกเท้าวางบนที่นั่ง เท้าโดนหัวใครก็ไม่สน สุดท้ายเจอคนจริง เล่นผิดคนซะแล้ว

หนุ่มยกเท้าวางบนที่นั่ง เท้าโดนหัวใครก็ไม่สน สุดท้ายเจอคนจริง เล่นผิดคนซะแล้ว

สำนักข่าวจีนรายงาน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองไฮว่ฮวา มณฑลหูหนาน โดยเป็นคลิปวิดีโอไวรัลที่ถูกถ่ายโดยผู้โดยสารหลายคนที่นั่งรถขนส่งสาธารณะคนหนึ่งที่แฉพฤติกรรมอันไม่สมควรของชายวัยกลางคนที่ถอดรองท้าแล้วนำเท้าเปล่าพิงเบาะหลังของผู้หญิงที่นั่งด้านหน้าบนรถประจำทาง ซึ่งเท้าของเขาอยู่เหนือศีรษะของผู้หญิงไม่กี่เซนติเมตร

ทางด้านผู้โดยสารคนอื่นเอ่ยเตือนและเกลี่ยกล่อมให้เขานำเท้าลง แต่ชายคนดังกล่าวยังนิ่งเฉย คำพูดที่นุ่มนวลและการโน้มน้าวใจซ้ำ ๆ ของผู้โดยสารชายยังคงใช้ไม่ได้ผล เมื่อเผชิญกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของชายคนนั้น การกระทำของเขาทำให้ผู้โดยสารหญิงรู้สึกลำบากใจมาก

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ขาของผู้ชายเหยียดออกไปตรงกลางพนักพิงอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว คราวนี้ บังเอิญเหยียดเท้าออกแตะศีรษะของผู้หญิง ทำให้ผู้ชายอีกคนที่นั่งถัดไปคาดว่าเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนั้นก็ผลักเท้าเขาออกจากพนักพิงไปด้านข้างอย่างแรง พร้อมถามออกไปเสียงดังด้วยความโกรธว่า มีคนอยู่ที่นี่ คุณไม่รู้เหรอ

ชายคนนั้นพึมพำอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นสิ่งนี้ เพื่อนก็พูดด้วยความโกรธว่า เธอได้เตือนชายผู้นั้นมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้น ชายคนนั้นรีบอ้างว่าเขากำลังหลับอยู่ เห็นได้ชัดว่าการนอนหลับไม่ใช่เครื่องป้องกันความป่าเถื่อนและการขาดคุณภาพ

เพื่อนสาวชี้ไปที่ชายคนนั้นและกล่าวเสียงดัง วางเท้าลง ชายไม่ปฏิบัติตามคำเตือน เขาลังเลที่จะถอยเท้ากลับ และเขาให้เหตุผลอย่างตรรกะผิดเพี้ยนว่า ตนเองไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าพฤติกรรมดังกล่าวผิด นับประสาอะไรกับการที่ตนเองต้องขอโทษผู้หญิงคนนั้นด้วย ท่ามกลางความโกรธ โดยไม่รู้ว่าเขากลัวว่าเพื่อนหญิงจะลงมือตีเขาอีกครั้งหรือไม่ ชายคนนั้นก็ถอยเท้าเงียบ ๆ แต่เท้าของเขายังคงอยู่ที่ด้านหลังเบาะหน้า

นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ โลกออนไลน์ก็แห่วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น คนประเภทนี้ควรถูกห้ามไม่ให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมด รถเมล์เป็นสถานที่สาธารณะ ไม่ใช่บ้านของตัวเอง และเขาไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบ ถ้าคุณไม่เคารพตัวเอง คุณจะได้รับความนับถือจากผู้อื่นได้อย่างไร? พนักพิงไม่ได้ใช้เพื่อรองรับเท้าของผู้โดยสาร พนักพิงไม่ได้ใช้เพื่อรองรับเท้าของผู้โดยสาร สงสัยที่บ้านไม่เคร่งมารยาทเลยไม่ได้พกมาเวลาไปข้างนอก

ขอบคุณ Sohu

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ