เงินแสนหาย ไร้ร่องรอย พระทักเงินอยู่ในบ่อ สุดท้ายกู้ภัยงมหาจนเจอ

เงินแสนหาย ไร้ร่องรอย พระทักเงินอยู่ในบ่อ สุดท้ายกู้ภัยงมหาจนเจอ

จากกรณีเฟซบุ๊ก ชุดปฏิบัติการกู้ภัยทางน้ำ EEL Team Kosumpisai โพสต์เรื่องราวได้รับการประสานจาก งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ยางน้อย ขอทีมสนับสนุน กรณีบุคคลทิ้งธนบัตรลงน้ำ พิกัดที่บ้านยางใหญ่ ต.ยางน้อย อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม จึงได้นำทีมกู้ภัยลงพื้นที่ นำธนบัตรขึ้นมาจากน้ำจำนวนมาก โดยใช้เวลาในการปฏิบัติภารกิจทั้งหมดเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (6 ก.ค. 65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านยางใหญ่ หมู่ 4 ต.ยางน้อย อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม พบกับ นางนิยม โพธิ์ศรี อายุ 77 ปี ก่อนเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 4-5 วันที่แล้ว หลานสาวอายุ 18 ปี ได้ไปเบิกเงินจำนวนมากมาจากธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะนำเงินไปฝากอีกธนาคารหนึ่ง แต่ได้นำเงินมาเก็บไว้ที่บ้าน โดยในบ้านมีน้าสาว อายุ 57 ปีอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งน้าสาวเป็นผู้ป่วยจิตเวช ต่อมาเงินทั้งหมดหายไป แต่หลานกลับไม่ยอมเล่าให้ฟัง จนเวลาล่วงเลยมา 2-3 วัน เพื่อนบ้านก็มาเล่าให้ฟังว่าเห็นหลานไปเบิกเงินที่ธนาคารจำนวนมาก จึงได้ไปถามหลาน หลานก็บอกไปเบิกเงินจริง แต่ตอนนี้เงินทั้งหมดได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

หลังจากทราบข่าวก็ตกใจมาก เพราะเงินที่หลานไปเบิกมาทั้งหมดเป็นเงิน 130,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากการขายที่ดิน เพื่อที่จะให้หลานได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย จึงได้ต่อว่าหลาน ว่าทำไมไม่บอกยาย เอาเงินมาฝากไว้กับยายก็ได้ หลานก็ว่าหลานเก็บเงินไว้ดีแล้ว แต่เงินก็หายไป ตอนนั้นทุกข์ใจมาก จึงได้ไปหาหมอดู ถึง 4 ที่ ปรากฏว่า 3 ที่ บอกเหมือนกันหมดว่า เงินไม่ได้ไปไหน อยู่ในบ้านนั่นแหละ มีคนวัยกลางคนเอาเงินไปซ่อน เงินอยู่ในกระเป๋าสีชมพู สีขาว มีเอกสารคนตายทับไว้ ซึ่งเป็นที่ที่หลานนำเงินไปเก็บไว้ก่อนที่เงินจะหายไป ซึ่งหมอดูบอกมาตรงหมดทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่พบ

กระทั่งไปหาพระ แต่พระไม่ยอมดูให้ เลยขอความเมตตา บอกว่า เงินจำนวนนี้ถ้าหายไป หลานก็จะไม่ได้เรียนหนังสือ พระก็เลยบอกว่าเงินอยู่ในบ้าน เงินอยู่ในท่อ ก็พาญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านมาช่วยกันหา อยู่ดีๆเพื่อนบ้านก็ไปยกฝาซีเมนต์ปิดบ่อน้ำออก ก็พบเงินแสนลอยอยู่ในบ่อน้ำจนเต็ม จึงร้องดีใจว่าเจอเงินแล้ว ก่อนจะเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยนำเงินขึ้นมาจากบ่อน้ำ ซึ่งที่ฝาซีเมนต์ที่ปิดท่อ มีรูเล็ก ๆ พอให้ใส่ท่อ PVC สูบน้ำขึ้นมาได้ ซึ่งเมื่อก่อนใช้สูบน้ำมาใช้ในบ้าน ก่อนที่จะมีน้ำประปา คาดว่าน้องสาวจะเอาเงินทั้งหมดยัดรูนี้

ด้านลูกชายของคุณยาย บอกว่า ตนเองทำงานอยู่ที่ จ.ขอนแก่น พี่สาวโทรมาบอกว่าให้กลับบ้านมาช่วยหลานหาเงิน เพราะหลานทำเงินหาย ตอนแรกคิดว่าเงินแค่ 1,000-2,000 บาท ไม่คิดว่าเงินจะหายมากขนาดนั้น พอทราบเรื่องก็ตกใจ เป็นเงินประมาณ 1 แสนกว่าบาท จึงได้กลับมาช่วยหาก็ไม่เจอ ทำให้ตนนึกถึงน้าที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชขึ้นมาทันที โดยในดวงบอกว่ามีเด็กผู้ชาย ไม่ใส่เสื้อ ยืนเฝ้าเงินอยู่ ตนคิดว่าเป็นหลานชายที่เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ยืนเฝ้าบ่อน้ำอยู่ ซึ่งหมอดูแนะนำให้จุดธูป 2 ดอก ขอเจ้าที่เจ้าทาง แม่พระธรณี จากนั้นไม่นานก็เจอเงินอยู่ในบ่อน้ำ เงินที่ได้คืนเป็นที่สมบูรณ์ประมาณ 100,000 บาท ส่วนเงินที่ฉีกขาดไปประมาณ 30,000 บาท

ตอนนี้ธนบัตรที่ขาดก็ได้นำไปแลกที่ธนาคารแห่งหนึ่งในตัว อ.โกสุมพิสัย โดยทางธนาคารบอกว่าจะส่งไปธนาคารแห่งชาติก่อน ถึงจะทราบว่าจะสามารถแลกคืนได้เท่าไร ซึ่งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.หัวขวาง มาก ๆ ที่ช่วยเหลือ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถเอาเงินขึ้นมาได้หมด ส่วนน้าสาว ทางครอบครัวเคยนำตัวไปรักษา แต่พอกลับมาบ้านก็ไม่ยอมกินยา ตอนนี้กำลังปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงกระบวนการรักษาอยู่ว่าจะทำอย่างไร

ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ สามเมืองปัก ผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.หัวขวาง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ว่ามีสิ่งของตกลงไปในน้ำ เป็นบ่อน้ำใต้ดิน ความลึกประมาณ 10 เมตร จึงได้เตรียมอุปกรณ์ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ มีชุดประดาน้ำ พัดลมระบายอากาศ ซึ่งเคสนี้ถือว่าค่อนข้างยาก เพราะบ่อน้ำมีความกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ลึกประมาณ 10 เมตร ข้างล่างมีปัญหาคือเป็นดินทราย ทรายดูดลึกลงไปถึงหัวเข่า ทำให้ค้นหาธนบัตรค่อนข้างยาก ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเคสแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสัตว์ หรือคนตกลงไป โดยน้ำในบ่อหากไม่ดูดออกก็ลึกประมาณ 7-8 เมตร ก่อนจะลงไปในบ่อ ต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบออกก่อน พอน้ำหมด แต่ทรายไม่หมด ทำให้ยากในการปฏิบัติงาน โดยใช้เวลาทำงานทั้งหมดเกือบ 3 ชั่วโมง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ