สาวร่ำไห้ หลังถูกพ่อแม่ดูถูกเพราะเรียนนิเทศ

สาวร่ำไห้ หลังถูกพ่อแม่ดูถูกเพราะเรียนนิเทศ

นับเป็นอีกหนึ่งคลิปไวรัล ที่โด่งดังมากใน TikTok สำหรับเรื่องราวของสาวรายหนึ่งที่เธออัดคลิปทั้งน้ำตาเผยถึงเหตุการณ์ที่เธอกินข้าวเย็นไปโดนพ่อแม่ด่าไป เพียงเพราะเธอเลือกที่จะเรียนนิเทศศาสตร์ และพ่อแม่มองว่าสิ่งที่เธอเลือกเรียนนั้นไม่ดีพอ

โดยในคลิปนั้นจะเห็นว่า เธอกำลังกินอาหารเย็นอยู่ และพ่อแม่ได้ถามว่า ถ้าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไร จะเอายังไงกับชีวิต เธอก็ตอบกวน ๆ ว่า หาผัวรวยยังไงล่ะแม่ ซึ่งทำให้พ่อแม่ตอบกลับมาว่า แกน่ะตัวก็เตี้ย ทำอะไรก็ไม่เป็น เทียบกับคนอื่นไม่ติดเลยสักนิด อย่ามาพูดเลยว่าจะแต่งงานกับคนรวย

จากนั้น ทางคุณพ่อเธอก็เข้ามาถามว่า จะเลือกเรียนคณะนี้ตั้งแต่แรกทำไม ทำให้เธอสวนคืนไปว่า หนูทำงานโพสต์โปรดักชั่น หนูนั่งในห้องและทำงานตัดต่อเลิกยุ่งกับหนูได้แล้ว หนูหาทางของหนูได้ จากนั้นเสียงของเธอก็สั่นเครือ น้ำตาไหลอาบสองแก้มขณะที่กินข้าวเย็นไปด้วยและถึงแม้ว่าเธอจะร้องไห้ พ่อแม่ก็ยังไม่หยุดตำหนิเธอว่าทำมาหากินกับอาชีพแบบนี้มันลำบากนะ ซึ่งเธอก็พยายามเบี่ยงไปคุยเรื่องอื่นขณะที่ร้องไห้ไปด้วยว่า หลอดของกล่องนมอยู่ไหนแม่ หนูดื่มนมไม่ได้ เธอจึงใช้ตะเกียบเจาะทะลุกล่องนมและพยายามดื่มนมเข้าไป ในขณะที่พ่อก็บอกว่า นั่งลงและคิดให้ดี ๆ นะ ตื่นได้แล้ว หยุดเพ้อฝัน อยู่กับความจริงซะบ้าง

นอกจากนี้เธอยังได้เผยคลิปที่เข้าไปคุยกับพ่อแม่ และบอกว่าเธอเข้าใจนะที่พ่อแม่เป็นห่วง สิ่งที่เธอทำไปนั้นไม่ถูก ขอโทษพ่อกับแม่ด้วย และทางคุณแม่ก็ได้บอกว่า ตอนที่พ่อแม่ถามว่าลูกว่าจะไปทำอะไรต่อจากนี้ บอกแผนในอนาคตมาหน่อยซิ เพราะพ่อแม่อยากรู้ว่าลูกจะอยู่ได้ไหม และมีอะไรที่พ่อแม่ช่วยได้บ้าง เช่น ถ้าเธอบอกว่าเธออยากจะทำอะไรสักอย่าง เธอก็ต้องรู้จักวางแผนไว้ ถ้าอยากเป็นยูทูบเบอร์ ก็ต้องตอบให้ได้ว่าจะเริ่มยังไง นี่คือสิ่งที่แม่อยากรู้

แม่บอกลูกตั้งแต่แรกแล้วว่า ตอนนี้มันหางานยากนะ แต่ถ้าลูกอยากทำ แม่พร้อมสนับสนุนเสมอ ลูกอยากได้เลนส์กล้องตัวใหม่ เราก็ซื้อเลนส์กล้องตัวใหม่ให้ลูกอยากได้กล้อง พ่อก็ซื้อกล้องให้ เราไม่ต้องการให้ลูกกลายเป็นคนดังหรือหาเงินได้เยอะ ๆ ลูกทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ลูกมีความสุข แต่ลูกต้องเลี้ยงตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้ เข้าใจไหม

ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ไม่เชื่อมั่นในตัวลูก แต่เพียงแค่ว่า คำตอบของลูกมันฟังไม่ขึ้น ลูกเขียนเก่งก็ควรไปเขียนหนังสือ แม่บอกลูกแล้วไง ไปเขียนหนังสือสิ แม่ช่วยลูกเอง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ