โดยเสาไฟฟ้าอัจฉริยะนี้จะทำหน้าที่เป็นทั้ง ไฟถนน ไฟจราจร เซ็นเซอร์สิ่งแวดล้อม ระบบนับจำนวนคนเดินเท้า ที่ชาร์จสมาร์ทโฟน จุดเชื่อมต่อ Wi-Fi กล้องวงจรปิด ปุ่มกดฉุกเฉินติดต่อเจ้าหน้าที่ QR Code สแกนข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ ในโซล และความสามารถอื่น ๆ อีกมากมายที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ที่ทำการติดตั้ง

โดยตอนนี้กรุงโซลก็ได้เริ่มทำตามนโยบายดังกล่าวแล้ว โดยได้มีการนำร่องติดตั้ง เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ จำนวน 26 เสาในบริเวณ 6 เขตของเมือง ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าอัจฉริยะเพิ่มอีก 190 เสา

และเสาไฟต้นแบบนี้ยังมีความสามารถในการชาร์จยานพาหนะไฟฟ้า ตรวจจับการจอดรถในที่ห้ามจอด และมีแผนที่จะสามารถชาร์จไฟให้กับโดรนที่จะถูกนำมาใช้ เพื่อตรวจสอบภัยต่าง ๆ รอบเมือง เพื่อให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้อีกด้วย

ด้าน ลี วอน-ม็อก อธิบดีนโยบายเมืองอัจฉริยะของงรัฐบาลกรุงโซล ได้อธิบายว่าเสาไฟฟ้าอัจฉริยะนี้จะรวบรวมเอาฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ บนถนนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ใช่แค่คงประโยชน์ใช้สอยดั้งเดิมไว้เท่านั้น แต่ยังสะท้อนคุณสมบัติของเทคโนโลยีอัจฉริยะอีกด้วย

โดยทางรัฐบาลกรุงโซลได้คาดหวังว่าเสาไฟฟ้าเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงภูมิทัศน์ และยกระดับความปลอดภัย สวัสดิภาพ และความสะดวกสบายของประชาชน และทำให้เมืองหลวงของเกาหลีใต้เข้าใกล้สถานะเมืองอัจฉริยะไปอีกขั้น

ทั้งนี้ทางรัฐบาลกรุงโซลมีแผนที่จะติดตั้ง เสาไฟฟ้าอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าอัจฉริยะเพิ่มอีก 190 เสา โดยจะทำการปรับเสาไฟฟ้ารุ่นเก่าเป็นเสาไฟฟ้าอัจฉริยะเมื่อถึงกำหนดต้องเปลี่ยนหรือติดตั้งใหม่

เพื่อประหยัดงบประมาณ ซึ่งทั่วทั้งเมืองนั้นมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าสาธารณะทั้งหมดประมาณ 240,000 และในทุกปีจะมีการเปลี่ยนเสาใหม่ประมาณ 3,500 - 3,700 เสา

อย่างไรก็ตามนี่โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงระดับโลกไป สู่โครงสร้างพื้นฐานถนนอเนกประสงค์บนถนน ในขณะที่เมือง รถยนต์ และคนเชื่อมต่อกันมากขึ้น ที่สำคัญแนวโน้มนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการริเริ่มเพื่อทำให้เมืองแห่งอนาคตเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ

ซึ่งรวมไปถึงถังขยะอัจฉริยะ ไฟจราจรระดับพื้นดิน และเสา 5G ที่จะถูกซ่อนอยู่ในพื้นที่สาธารณะ

ที่มา cities-today, smartcity aawsat