จากคดีเกิดอุบัติเหตุรถพ่วงบรรทุกไม้ตกเหวเขาคอม้า ม.15 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก จนนำไปสู่การพบซากรถ MG ปริศนาอีก 1 คัน อยู่ด้านล่าง ถูกไฟไหม้ทั้งคัน และพบโครงกระดูกมนุษย์ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชาติตระการ ได้เก็บกู้ซากรถจากเหวลึก และประสานผู้เชี่ยวชาญเข้ามาทำการตรวจสอบหมายเลขคัสซีและหมายเลขเครื่องยนต์
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า รถดังกล่าวมี นายนิโรจน์ จำปามูล อายุ 38 ปี อยู่ในพื้นที่แขวงบางหลวง เขตเมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เป็นเจ้าของรถ และมีธุรกิจให้เช่าเต็นท์รถ เคยแจ้งความไว้ที่ สน.สายไหม ว่าได้ให้ น.ส.รัตน์ชนก เช่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ เอ็มจี สีดำ หมายเลขทะเบียน 4 ขว 7354 กรุงเทพมหานคร โดยทำสัญญาเช่าแบบรายวัน แต่ไม่ได้นำรถกลับมาคืน อีกทั้งสัญญาณ GPS จากรถคันนี้ก็ขาดหายไปบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุบนเขาคอม้า รวมระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว
ล่าสุด วานนี้ (9 สิงหาคม 2568) นายนิโรจน์ จำปามูล เจ้าของรถ ได้เดินทางมาที่ สภ.ชาติตระการ เพื่อให้ปากคำและนำหลักฐานเกี่ยวกับรถยนต์ดังกล่าวมาให้แสดงต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชาติตระการ เพื่อไขปริศนาว่าศพดังกล่าวเป็นของ น.ส.รัตน์ชนก ผู้เช่ารถด้วยหรือไม่ โดยนายนิโรจน์ ได้เข้าไปตรวจสอบซากรถ MG และพบว่าตัวเลขคัสซีตรงกันจริง พร้อมกับกล่าวว่า ตนเองที่เดินทางมาครั้งนี้เพื่ออยากจะทราบว่าศพดังกล่าวเป็นของ น.ส.รัตน์ชนก จริงหรือไม่ ถ้าไม่จริง ก็อยากเจอตัวเขา ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ซึ่งเมื่อปี 2566 นั้น รถของตนเอง GPS สัญญาณตัดหายไปที่บริเวณเขาคอม้า แต่เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า ในปี 67 น.ส.รัตน์ชนก มีคดีฉ้อโกงอีกครั้ง ทำให้เชื่อได้ว่า น.ส.รัตน์ชนก น่าจะยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งโครงกระดูกดังกล่าวก็ไม่น่าจะเป็นของ น.ส.รัตน์ชนก อาจมีการขายต่อให้กับบุคคลอื่นเป็นมือสอง มือสามอีกก็ได้ แต่ก็ต้องรอผลพิสูจน์ดีเอ็นเอจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ
ขณะที่แนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบดีเอ็นเอแม่ของ น.ส.รัตน์ชนก อีกครั้งว่า ตรงกับกระดูกที่พบหรือไม่ อีกทั้งจากการตรวจสอบเวลาที่ GPS รถคันดังกล่าวที่หายไปในช่วงปี 66 นั้น เจ้าหน้าที่พบว่า น.ส.รัตน์ชนก ยังไม่ได้หมดสัญญาเช่า ณ เวลานั้น โดยได้เช่ารถมาจำนวน 10 วัน หากพบว่ากระดูกดีเอ็นเอตรงกัน ก็อาจเป็นคดีอุบัติเหตุ ซึ่งอาจไม่เข้าข่ายคดีลักทรัพย์ได้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง